สนธิกำลังตรวจยึดไม้ท่อน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำสา

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน  2565  ที่บริเวณป่าห้วยลุ  พื้นที่บ้านสะเลียม  หมู่ 3 ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน  ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำสาฝั่งขวาตอนขุน สนธิกำลังประกอบด้วย จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.13 (น้ำสา) ,จนท.ฝ่ายปกครอง อ.เวียงสา ,จนท.ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้น่าน ,จนท.ชุดปฏิบัติการพิเศษ สจป.ที่ 3 สาขาแพร่ ,จนท.ตร.ร้อย ตชด.324 ,จนท.สืบสวน สภ.เวียงสา และจนท.กก.4 บก.ปทส.ได้ร่วมกันตรวจยึด  ไม้ประดู่ท่อน  จำนวน 14 ท่อน ปริมาตร 9.97 ลบ.ม. คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 348,950 บาท

หลังจากที่ จนท.ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย ว่าด้วยทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน โดยได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมว่า มีการชักลากไม้ออกจากป่ามายังบริเวณป่าท้ายหมู่บ้านสะเลียม หมู่ที่ 3 ฝั่งทิศตะวันตก เพื่อรอส่งให้กับกลุ่มนายทุนจากจ.แพร่ ซึ่งอาจเป็นไม้ที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ขอให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบด้วย จึงได้สนธิกำลังออกตรวจสอบตามที่ได้รับการร้องเรียน นำโดย นายจวน  จันเครื่อง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.เวียงสา โดยขับรถไปตามเส้นทางป่าห้วยลุ ในเขตพื้นที่บ้านสะเลียม หมู่ 3 ต.ยาบหัวนา ได้หยุดรถและกระจายกำลังเดินเท้าเข้าตรวจสอบไปตามเส้นทางที่ได้รับแจ้ง 

จุดที่ 1 พบไม้ประดู่ท่อน จำนวน 5 ท่อน วางกองรวมกันอยู่บริเวณลานสีข้าวโพด จุดที่ 2 ไม้ประดู่ท่อน อีกจำนวน 4 ท่อน วางกองรวมกันอยู่บริเวณสวนมะม่วงหิมพานต์ จุดที่ 3 พบไม้ประดู่ท่อน จำนวน 3 ท่อน วางกองรวมกันอยู่บริเวณสวนมะขาม  และจุดที่ 4 พบไม้ประดู่ท่อน จำนวน 2 ท่อน วางกองรวมกันอยู่บริเวณที่ดินทำกินเก่า ซึ่งจากตรวจสอบทั้ง 4 พบว่าที่หน้าตัดของไม้ประดู่ทั้งสองด้าน พบว่าถูกแปรรูปด้วยเลื่อยโซ่ยนต์ สังเกตได้จากที่หน้าตัดของไม้ทั้งสองด้านมีร่องรอยของครองเลื่อยยนต์ติดอยู่ ไม่ปรากฏรูปรอยดวงตราของทางราชการหรือเอกชนตีประทับไว้ เพื่อเป็นการแสดงการอนุญาตแต่อย่างใด และไม่เคยผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้แต่อย่างใด

รวมบริเวณที่พบไม้ประดู่ท่อนทั้งหมด จำนวน 4 จุด  ตรวจนับจำนวนไม้ประดู่ท่อนทั้งหมด รวม 14 ท่อน  ขณะตรวจสอบบริเวณพื้นที่ดังกล่าวโดยรอบ ไม่พบผู้หนึ่งผู้ใดอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุเพื่อเป็นการแสดงการตรวจยึด พร้อมทั้งจัดทำบันทึกการตรวจยึด  และเอกสารที่เกี่ยวข้อง นำส่งพนักงาสอบสวน สภ.เวียงสา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายตามข้อกล่าวหาข้างต้นต่อไป  โดยมอบหมายให้ นายณัฐชนน คนสูง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และ นายมัด  เชียงน้อย เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเป็นพยานในคดีตามลำดับ สำหรับไม้ของกลางได้มอบหมายให้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.13 (น้ำสา) นำไปเก็บรักษาตามระเบียบต่อไป เพื่อหาผู้ที่กระทำผิดมาดำเนินคดี ในข้อหาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484  มาตรา 11 ฐาน “ทำไม้หรือทำอันตรายด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”  และมาตรา 69 ฐาน “มีไม้หวงห้าม(ท่อน)ไว้ในครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาต”  ,ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ  พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐาน “ร่วมกันทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต”  มาดำเนินคดีต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น