เมื่อวันที่ 22 ก.ย.65 ทางส่วนราชการหลายฝ่ายในพื้นที่อำเภอเชียงคำ จ.พะเยา ทั้งปกครองอำเภอเชียงคำ, ตชด.326, พัฒนาชุมชนจังหวัดพะเยา, กศน.อ.เชียงคำและ อบต.น้ำแวนรวมทั้งผู้นำชุมชนและกลุ่มแม่บ้านไคร้ป่าคา ม.3 โดยพร้อมใจกันเดินทางเข้าเยี่ยมบ้านของนายจันทร์ และนางบัวผัน แสงศรีจันทร์ที่บ้านไคร้ป่าคา ม.3 ต.น้ำแวน อ.เชียงคำ จ.พะเยา
ชึ่งในการลงพื้นที่ครั้งนี้สืบทราบมาว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านผู้ยากไร้ตามโครงการ TPMAP ของกระทรวงมหาดไทย โดยสภาพของบ้านหลังนี้ค่อนข้างที่จะทรุดโทรมอีกทั้งตัวของนายจันทร์ได้เสียชีวิตก่อนหน้าช่วงเวลาประมาณอาทิตย์กว่าๆ ที่ผ่านมาทิ้งให้นางบัวผันอยู่กับลูกสาวเพียง 2 คนอีกทั้งยังพบว่าตัวของลูกสาวต้องออกจากโรงเรียนกลางคันเพราะไร้ผู้ส่งเสียให้เรียนจบ ม.6 ด้วย
นางเทียมจันทร์ มังคลาด นายก อบต.น้ำแวน ได้เล่าว่า หลังจากที่ทางฝ่ายปกครอง อ.เชียงคำได้ลงพื้นที่สำรวจผู้จากไร้ตามโครงการ TPMAP ของกระทรวงมหาดไทยนั้นก็พบว่าในพื้นที่ของบ้านไคร้ป่าคาแห่งนี้พบมีบ้านผู้ยากไร้รายนี้อยู่ด้วย ทั้งนี้ทางอำเภอจึงได้ประสานงานมายังหน่วยงานของตนเพื่อให้เร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนด้วย โดยการลงพื้นที่นั้นพบบ้านหลังดังกล่าวอยู่กันเพียง 2 แม่ลูกคือตัวของนางบัวผัน แสงศรีจันทร์และ น.ส.ราตรี แสงศรีจันทร์ ซึ่งอยู่กันตามลำพังในสวนลำไยแห่งนี้ อีกทั้งในตัวบ้านนั้นค่อนข้างที่จะทรุดโทรมเป็นอย่างมากด้วยเพราะไม้ที่มาใช้ทำบ้านนั้นเริ่มเสื่อมสภาพลงทุกที ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ภายใน อบต.น้ำวนเร่งช่วยเหลือเบื้องต้นและได้ประสานงานของความช่วยเหลืออีกหลายหน่วยงานซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ในเรื่องของผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านหลังนี้สืบทราบมาว่า ผู้เป็นมารดานั้นมีปัญหาทางสมองไม่สามารถที่จะทำงานมาเลี้ยงตัวของลูกสาวได้เพราะปกติผู้เป็นบิดาก่อนเสียชีวิตก็ได้ส่งเสียจนเกือบจะจบแล้วแต่ด้วยต้องล้มป่วยจากโรคมะเร็งและเสียชีวิตในเวลาต่อมาทำให้ตัวของ น.ส.ราตรีผู้เป็นลูกต้องออกจากโรงเรียนเชียงคำวิทยาคมกลางคันเป็นเวลาหลายเดือน ทั้งนี้ตนคาดว่าทางโรงเรียนก็คงไม่รู้เรื่องของครอบครัวของ น.ส.ราตรีเพราะตัวของเด็กอาจจะไม่ได้บอกให้กับครูที่ปรึกษาได้ทราบในเรื่องทีเกิดขึ้น
ด้าน น.ส.ราตรี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองเคยเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนเชียงคำวิทยาคมตั้งแต่ ม.1 จนเกือบจะจบชั้น ม.6 แล้วแต่ด้วยผู้เป็นพ่อมาล้มป่วยลงทำให้ตนรู้สึกเครียดมาก จนต้องออกจากโรงเรียนกลางคันอีกทั้งตนเองยังเป็นโรคซึมเศร้าด้วย และหลังจากที่พ่อได้เสียชีวิตลงตนเองก็ต้องดูแลแม่เพียงลำพังตลอดเรื่อยมา แต่วันนี้ตนกลับดีใจจนบอกไม่ถูกที่หน่วยงานภาครัฐหลายฝ่ายยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของตนให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของที่อยู่อาศัยและการติดต่อในเรื่องการเรียนให้จบชั้น ม.6 ในหน่วยงาน กศน. ด้วย ซึ่งตนจะตั้งใจให้เรียนจบชั้น ม.6 และหลังจากนี้หากมีโอกาสได้เรียนต่อจนจบชั้น ป.ตรี นั้นความใฝ่ฝันอันสูงสุดของตนเองคืออยากเป็นตำรวจหญิงด้วย













ร่วมแสดงความคิดเห็น