สุดทึ่ง! ชาวบ้านกว่า 300 คนลากเรือบกบรรทุกเครื่องกฐินนำเงินถวายวัด
เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2565 ที่บ้านสันกลาง ม.8 ต.งิม อ.ปง จ.พะเยา ได้จัดให้มีขบวนแห่องค์กฐินขึ้น โดยมี นางกัญญาณัฐ ศรีใจ นายกเทศมนตรีตำบลงิม เป็นประธานในงานบุญครั้งนี้ ซึ่งชาวบ้านที่เข้าร่วมงานบุญครั้งนี้มีทั้งชาวบ้านสันกลาง ม.8 และ ชาวบ้านหนองบัว ม.2 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ทต.งิม ไม่ต่ำกว่า 300 คนในการลากเข้าวัดสันกลางและวัดหนองบัว แต่ไฮท์ไลน์ของงานนี้คือการลากเรือบกหรือทางเหนือเรียกว่า “เฮือบก” ซึ่งเป็นยานพาหนะสมัยโบราณแต่ด้วยทาง นายก ทต.งิม ได้ร่วมกับทางพระธีร์ธเนส จิรวัฑฒนเมธี เจ้าอาวาสวัดหนองบัวได้รื้อฟื้นประเพณีอันเก่าแก่ขึ้นมา
นางกัญญาณัฐ กล่าวว่า ด้วยช่วงปลายปีนี้ที่ผ่านมานั้นจะเห็นว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดได้เบาบางลงเป็นอย่างมากทำให้ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากให้มีงานบุญเกิดขึ้นในหมู่บ้านประกอบกับทางพระธีร์ธเนส จิรวัฑฒนเมธี เจ้าอาวาสวัดหนองบัว ได้มีแนวคิดที่จะรื้อฟื้นประเพณีโบราณนั่นคือการจัดประเพณีทอดกฐินโดยยานพาหนะที่ใช้นั้นจะเป็นเรือไม้หรือที่เรียกว่าเรือบก โดยสมัยก่อนเรือบกจะเป็นยานพาหนะในการนำเครื่ององค์กฐินมาใส่ไว้แล้วให้ชาวบ้านลากจูงแห่เข้าวัด แต่ปัจจุบันนี้พบด้วยโลกที่เปลี่ยนแปลงตามกสลเวลาทำให้ประเพณีดังกล่าวได้หายสาบสุญไปอีกทั้งด้วยรถยนต์ที่อำนวยความสะดวกจึงได้เปลี่ยนจากเรือบกเป็นรถยนต์มาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งนี้การใช้เรือบกในการใส่เครื่ององค์กฐินนั้นเวลานำเข้าวัดจะต้องลากด้วยพลังใจของชาวบ้านที่มาร่วมงาน ซึ่งงานครั้งนี้ก็เห็นได้ว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างสนุกสนานรื่นเริงเป็นอย่างมาก และช่วยกันลากเรือบกซึ่งมีองค์กฐินตั้งอยู่นำเข้าวัดได้อย่างใจหวังด้วย โดยการลากจูงครั้งนี้ใช้ชาวบ้านมากกว่า 300 คนและได้ใช้เชือกขนาดใหญ่ในการลากจูง ซึ่งระยะทางที่ลากจากบ้านตนเองไปถึงวัดหนองบัวนั้นเกือบ 3 กม.รวมทั้งการลากองค์กฐินนี้ถือได้ว่าเป็นแห่งแรกใน จ.พะเยาที่ได้รื้อฟื้นวัฒนธรรมนี้ขึ้นมาใหม่เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นเรื่องราวที่เคยมีมานานแสนนานด้วย
ด้านนายกิตตินันท์ พรมไชย ผู้ใหญ่บ้านหนองบัว ม.2 ได้กล่าวเสริมในเรื่องนี้ว่า การจัดเตรียมงานครั้งนี้ทั้งตน ชาวบ้านและเจ้าอาวาสได้เตรียมการมาเป็นระยะเวลา 1 ปี ด้วยเพราะต้องรอให้สถานการณ์โควิดดีขึ้นก่อนจึงจะสามารถจัดงานบุญได้ แต่หลังจากที่ทางภาครัฐได้ประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นรวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดได้เบาลงทำให้ชาวบ้านเริ่มตื่นตัวในการที่จะจัดงานครั้งนี้เป็นอย่างมากเช่นกัน ทั้งนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้ร่วมแรงร่วมใจในการลากเรือบกซึ่งมีองค์กฐินตั้งอยู่ในลำเรือเข้าวัดได้อย่างสำเร็จ อีกทั้งหลายคนไม่ว่าจะเป็นเด็กๆ วันรุ่นๆ หรือผู้คนทั่วไปต่างก็ไม่เคยเห็นยานพาหนะที่ใส่องค์กฐินนี้มาก่อนด้วยเพราะอาจจะเคยหายสาบสูญไปนานแล้วด้วย ทั้งนี้การจัดงานครั้งนี้ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกฝ่าย ซึ่งปีหน้าหากมีงานบุญกฐินอีกตนพร้อมทั้งชาวบ้านก็ยินดีที่จะเข้าร่วมกันอีกครั้ง
ร่วมแสดงความคิดเห็น