เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ทางว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร ผู้ว่าฯ พะเยาได้มีหนังสือคำสั่งงดเผาตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. – 30 เม.ย.66ให้กับทุกอำเภอไปแล้วนั้น ล่าสุดทางนายจรินทร์ เก่งสงวนสิทธิ์ นายอำเภอจุน ได้ออกหนังสือสั่งการให้ทุกตำบลควบคุมการเข้าออกในเขตป่าชุมชนหรือป่าสงวนเพื่อป้องกันการลักลอบเผาป่าหรือแม้กระทั่งการขึ้นไปหาของป่าแล้วเกิดพลัดหลงในช่วงนี้ด้วย นอกจากนี้ทางฝั่งของบ้านห้วยสา ม.14 นำโดยนางวราลี แก้วเบี่ยงผู้ใหญ่บ้านก็ได้นำเจ้าหน้าที่ อช.ภูซาง 2 และชาวบ้านขึ้นควบคุมไฟป่าพร้อมทั้งทำแนวกันไฟด้วยเช่นกัน

นายธนกร ขัติยศ กำนัน ต.ห้วยข้าวก่ำ ได้กล่าวว่า หลังจากทางนายอำเภอจุนได้มีหนังสือคำสั่งให้ทุกตำบลทำการเฝ้าระวังพร้อมทั้งตั้งจุดในการเข้าออกป่าตั้งแต่เวลา 08.00 – 09.00 น. ของทุกวัน ซึ่งในขณะนี้พบว่าค่าฝุ่นละอองสูงถึง 216 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรซึ่งเป็นอันตรายต่อชาวบ้านเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ตนเองได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ได้ตั้งด่านเข้าออกในเขตป่าชุมชนและป่าสงวนด้วย ซึ่งในแต่ละวันจะมีผู้ใหญ่บ้านรวมทั้งลูกชุดที่ดูแลความเรียบร้อยวันละ 6 คน โดยเริ่มปฏิบัติหน้าที่กันตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.66 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ชาวบ้านที่ทราบข่าวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและในขณะนี้ก็ยังไม่พบว่ามีชาวบ้านแอบขึ้นไปเผาป่าเพื่อหาของป่าด้วย
ด้านนายวราลี ได้กล่าวเสริมว่า ในส่วนของทางบ้านห้วยสานั้นเมื่อช่วง 2-3 วันก่อนได้เกิดเพลิงไหม้บนยอดดอยทำให้ตนพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ อช.ภูซาง 2 ที่ดูแลป่าของบ้านห้วยสาต้องระดมกำลังขึ้นไปดับไฟป่าเพื่อไม่ให้ลุกลามไปกว้างกว่านี้ได้ อีกทั้งตนได้ขอความร่วมมือจากชาวบ้านในพื้นที่ให้งดเผาขยะหรือแม้กระทั่งการขึ้นไปหาของป่าโดยไม่เผ่าป่าด้วย รวมทั้งชาวบ้านส่วนหนึ่งก็ได้ตามตนขึ้นไปเพื่อทำการสร้างเส้นทางของแนวกันไฟด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ในพื้นที่ของบ้านห้วยสาในตอนนี้ตนมั่นใจว่าสถานการณ์ยังไม่รุนแรงและยังสามารถควบคุมเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ได้ซึ่งก็ได้ความร่วมมือทั้งเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่และชาวบ้านที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เช่นกัน














ร่วมแสดงความคิดเห็น