เหตุสลดยิง 2 ศพต่อหน้าลูกรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อคำวันที่ 19 ต.ค. 65 น. เวลา 19.00 น. ขณะที่ทุกคนได้ทานข้าวเย็นพักผ่อนกันอยู่นั้น ได้ยีนเสียงปืนดังขึ้นมา 2 นัด ที่บ้านข้าง ร.ร.บ้านแม่ขมิง ห่างจากบ้านผู้ใหญ่บ้าน 100 เมตร สักครู่หนึ่งได้มีเด็กหญิงวิ่งออกบ้านมาบอกให้ ผญบ.ว่า พ่อโพธิ์ ยิงพ่อแม่ตายแล้ว
ขณะนั้น นายอัจฉริยะพงษ์ ปันฟอง ผญบ.แม่ขมิงหมู่ 2 ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ กำลังจะไปร่วมงานศพของแม่ ผญบ. อีกหมู่บ้านหนึ่งพอดี จึงได้รีบวิ่งไปดู ปรากฎว่านายกันยา (สงวนนามสกุล) และ น.ส.แพรวพรรณ (สงวนนามสกุล) ถูกยิงเสียชีวิต อยู่ห้องครัวหลังบ้านทั้งสองคน จึงได้โทรศัพท์แจ้งไปที่ พ.ต.ท.กัณฑสิทธิ์ คงต่อ สวป.สภ.หนองม่วงไข่ รรท.สว.สภ.สรอยให้รับทราบ และแจ้ง ร.ต.อ.อนวัธ แสนอินทร์ รอง สว.(สอบสวน) นำชุดสายตรวจ ,ชุดสืบสวน ออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแจ้งประสานไปยัง นายอัมพร ฐานะวุฒิกุล นายก อบต.สรอย นำรถกู้ชีพกู้ภัยไปที่เกิดเหตุ แล้วรายงานให้ทาง นายปานศร ภมรคนธื นอภ.วังชิ้น รับทราบ ซึ่งได้สั่งการให้ นายอธิวัฒน์ อารัญ ปลัดหัวหน้างานบริหารอ.วังชิ้น,นายนิรันดร์ สายมัน ปลัดฝ่ายป้องกัน พร้อมชุด อส.กำลังเข้าไปสมทบ เนื่องจากเป็นอุกฉกรรจ์และเป็นเวลาพลบค่ำ คนร้ายอุกอาจมีอาวุธปืน ทาง สภ.สรอย จึงได้แจ้งไปขอกำลังจาก นปพ.ภ.จ.แพร่ เข้ามาเสริมในการป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นและรักษาพื้นที่ สถานที่เกิดเหตุเอาไว้ รอแพทย์เวร รพ.วังชิ้น พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน จาก ภ.จ.แพร่ ที่มาร่วมกันพิสูจน์ในที่เกิดเหตุ

สถานที่เกิดเหตุ เป็นบ้านของนาย กันยา (สงวนนามสกุล) และ น.ส.แพรวพรรณ (สงวนนามสกุล) ของผู้ตาย ที่บ้าน ม.2 แม่ขมิง ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ สร้างด้วยอิฐถือปูนชั้นเดียวติดดิน หลังคามุงกระเบื้อง ลักษณะบ้านโล่งไปถึงโรงครัวหลังบ้าน ประตูเข้าด้านหน้าทะลุออกด้านหลัง มีห้องนอนติดห้องครัว
สถานที่พบศพนายกันยา สวมกางเกงขาสั้น ไม่ใส่เสื้อ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่หน้าอกทะลุด้านหลัง และศพของ น.ส.แพรวพรรณ อายุ 27 ปี ภรรยาผู้ตายสวมใส่กางเกงสามส่วนสีน้ำตาล สวมใส่เสื้อสีแดง ถูกยิงที่ราวนมด้านซ้ายทะลุหลัง นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ใกล้กัน เลือดไหลแดงเต็มห้องครัวไปหมดเหม็นคาวคละคลุ้ง
ในวันเวลาดังกล่าวข้างต้น ทั้งสองคนหลังกลับจากทำงานมาแล้ว กำลังจะทำกับข้าวตอนเย็นอยู่ที่ห้องครัวหลังบ้าน และมีลูกสาวอายุ 9 ขวบ ลูกชายอายุ 4 ขวบ นั่งเล่นรอพ่อแม่ทำกับข้าวให้กินอยู่นั้น ก็ได้มีนายโพธิ์ อายุ 42 ปี ได้เดินเข้ามาในบ้านไม่ได้พูดอะไร เมื่อเห็นทั้งสองกำลังทำกับข้าวอยู่ด้วยกันเป็นภาพบาดตา จึงชักปืนลูกซองที่เตรียมมายิงไปที่หน้าอกของนายกันยา ล้มฟุบจมกองเลือดแล้วบรรจุลูกกระสุนไปอีก 1 นัดยิง น.ส.แพรวพรรณ ที่ยืนตกตะลึงอยู่นั้นเข้าที่ราวนมซ้าย ทะลุหลัง ล้มลงข้างๆนายกันยาอีกศพหนึ่ง ต่อหน้าลูกสาวและลูกชาย ลูกสาวจึงได้วิ่งไปแจ้งผู้ใหญ่ว่า พ่อโพธิ์ ยิงพ่อกับแม่ตายแล้ว

ต่อมานายอัจฉริยะพงษ์ ปันฟอง ผญบ.เข้าไปดูเห็นศพนอนแน่นิ่งเข้าใจว่าเสียชีวิตแล้ว จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและ นอภ.วังชิ้นรับทราบตามลำดับขั้นตอน ของสายงานบังคับบัญชา
ส่วนสาเหตุของการยิงกันตายสองศพในครั้งนี้ พ่อและญาติผู้ตายทั้งสองฝ่ายให้การว่า นายกันยา ผู้ตาย กับนายโพธิ์ มือปืน เป็นเพื่อนรักกันมาก่อนตั้งแต่เล็กๆ แล้ว มักเข้าป่าล่าสัตว์ไปไหนด้วยกันเสมอ เมื่อประมาณปี 57 หรือ 58 ทั้งสองได้รักและชอบพอ กับ น.ส.แพรวพรรณ คนเดียวกัน น.ส แพรวพรรณได้เลือกเอานายกันยา มาเป็นสามีอยู่กินกันจนมีลูก 2 คน ด.ญ.อายุ 9 ปีและ ด.ช.อายุ 4 ปี มาประมาณปี 64 ทั้งสองได้แยกทางกัน แบ่งลูกกันไปเลี้ยง ลูกสาวอยู่กับแม่ ลูกชายคนเล็กอยู่กับพ่อ น.ส.แพรวพรรณ จึงได้ไปหานายโพธิ์ สามีใหม่ เพื่อนของสามีเก่า โดยเอาลูกสาวไปเลี้ยงดูอยู่กับนายโพธิ์ บอกว่าได้เลิกลากับนายกันยาแล้ว จึงได้นำลูกมาขออยู่ด้วย นายโพธิ์ ฯเห็นว่าทั้งคู่เลิกกันจริงแล้ว จึงยอมรับเอาเมืยเก่าเพื่อน เป็นเมียใหม่ตนเอง หลังจากอยู่กินเป็นผัวเมียกันได้ 2 ปี
น.ส.แพรวพรรณ ก็ได้เลืกกับสามีใหม่ กลับไปหาผัวเก่าเหมือนเดิม โดยได้บอก สามีเก่าว่า เลิกกับผ้วใหม่แล้ว ไหนๆ เราก็มีลูกด้วยกันแล้วขอกลับมาอยู่คืนดีกันใหม่นะ จึงเป็นสาเหตุของการเกิดคดีอาชญากรรมขึ้นมาครั้งนี้ กลับกลายเป็นรักสามเส้า ทางสามแพร่ง น.ส.แพรวพราว ทำใจไม่ถูกว่าจะเลือกเอาใครดี เริ่มมีเรื่องบาดหมางแค้นเคืองอยู่ในใจของนายกันยา ที่นางกลับไปกลับมา ปากบอกว่าเลิกแต่พฤติกรรมไม่ใว้วางใจ นายโพธิ์ จึงได้แอบซุ่มดูพฤติการณ์ของ น.ส.แพรวพรรณ มาตลอดเวลา ทางนายอินสวน อายุ 48 ปี พ่อ น.ส.แพรวพรรณฯ ผู้ตาย ได้เล่าให้ ผู้สื่อข่าวฟังว่า ได้กล่าวตักเตือน ลูกสาวแล้วว่าให้เลิกพฤติการณ์แบบนี้เสีย มันไม่ดี เตือนสติลูกสาวมาตลอดจนไม่รู้จะว่าอย่างไร เพราะลูกสาวมันก็โตมีลูกแล้ว ก็เลยไม่ได้สนใจอะไร มันเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างคนสามคนที่ต้องคุยกัน มันไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน ผัวเก่า ผัวใหม่เป็นเพื่อนเดียวกัน อยู่หมู่บ้านเดียวกัน และมารักลูกสาวของตน ไม่คิดว่าจะลงเอยกันอย่างนี้
ขณะเกิดเหตุ ตนเองไม่ได้อยู่บ้าน ไปทานข้าวที่บ้านญาติ ได้รับแจ้งจึงรีบมาดู เห็นรถของเจ้าหน้าที่กู้ภัย อบต.สรอย เปิดไฟวาบๆ อยู่ แต่เข้าไม่ได้ ตำรวจได้กั้นที่เกิดเหตุกันไว้ จึงได้แต่รอ ตนไม่รู้จะทำอย่างไร สงสารหลานทั้งสองคนอายุ 9 ขวบ กับ 4 ขวบ ที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ได้เห็นภาพติดตาไม่รู้ว่าสุขภาพจิตจะเป็นอย่างไร และต้องมากำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่อายุแค่นี้ มันเป็นโศกฆาตกรรมเกิดขึ้นที่เด็กเห็นกับตา ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเรียนแบบพฤติกรรมนี้หรือไม่่ น่าสงสารเด็กๆ ทั้งสองคน ที่ยังเล็กอยู่ในวัยเรียนต้องกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะรักสามเส้า ไม่รู้ว่ามันจะลงเอยอย่างนี้


















ร่วมแสดงความคิดเห็น