เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2566 เวลา 09.29 น. นพ.นิยม วิวรรธนดิฐกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อจังหวัดแพร่ ประธานงานกิจกรรมยกไม้ง่ามค้ำศรีมหาโพธิ์ จำนวน 3 ต้น เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ความสามัคคี ค้ำบ้าน ค้ำเมือง ค้ำพุทธศาสนา ให้กับชุมชน วัดคุ้มครองธรรม ตำบลบ้านกลาง อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ทั้ง 3 หมู่บ้านโดยมีพุทธศาสนิกชน ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้อย่างมากมาย
วัดคุ้มครองธรรม ตั้งอยู่ หมู่ที่ 12 ตำบลบ้านกลาง อำเภอสอง จังหวัดแพร่ สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย มีเนื้อที่ 5 ไร่ 3 งาน 30 ตารางวา สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2275 (ปัจจุบัน พ.ศ.2566 อายุวัดรวม 291 ปี) ได้รับวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2526 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 20เมตร ยาว 40 เมตร

ตามตำนานเล่าขานว่า เมื่อประมาณ พ.ศ. 2250-2270 มีเจ้าเมืองแพร่พระองค์หนึ่ง (ไม่สามารถระบุพระนามได้) เสด็จมายังเมืองสองบริเวณแม่น้ำกาหลง (แม่น้ำสอง) เพื่อทำการคล้องช้าง เนื่องจากพื้นที่นี้มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้และสัตว์ป่านานาพันธุ์ โดยเฉพาะช้างป่า เจ้าเมืองแพร่ได้เกณฑ์ไพร่พลสร้างที่ประทับ (คุ้มเจ้า) ด้วยไม้สักทั้งหลังโดยการใช้ช้างชักลากไม้สัก กาลต่อมา ณ บริเวณดังกล่าวเริ่มมีชาวบ้านมาจับจองพื้นที่ทำมาหากินและสร้างที่อยู่อาศัยรวมกันเป็นกลุ่ม โดยเรียกหมู่บ้านนี้ว่า บ้านคุ้ม เพราะหมู่บ้านตั้งอยู่รอบๆ บริเวณคุ้มเจ้าหลวง และได้สร้างศาลขึ้นหนึ่งหลัง ชื่อว่า ศาลเจ้าพ่อเลี้ยงกุมภัณฑ์ เป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน ปัจจุบันศาลดังกล่าวอยู่บริเวณลานปฏิบัติธรรม ต่อมาปี พ.ศ. 2275 ชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาจึงร่วมแรงร่วมใจสร้างวัดขึ้นมา ชื่อว่า วัดคุ้ม โดยสร้างวิหารจำนวน 1 หลัง เพื่อให้พระภิกษุได้ทำพิธีสังฆกรรม ในปี พ.ศ. 2481 พระสมุห์อาจเจ้าอาวาสในเวลานั้นได้ขนานนามวัดใหม่เป็น วัดคุ้มครองธรรม ปัจจุบัน พระครูมงคลธรรมรักษ์ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคุ้มครองธรรม
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด พระพุทธคุ้มมงคลศิริ เป็นพระประธานในอุโบสถ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2468 เป็นพระพุทธรูปปางสะดุ้งมาร สูง 4 เมตร 96 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 3เมตร 66 เซนติเมตร องค์พระพุทธรูปมีความสวยงาม พระพักตร์มีลักษณะคล้ายพระเจ้าตนเอี้ยง แห่งเมืองพะเยา (พระเจ้าตนหลวง วัดศรีโคมคำ) และมีพระสาวกสององค์ (ด้านขวาพระสารีบุตร และด้านซ้ายพระโมคลานะ) ต่อมาปี พ.ศ. 2555 ทางวัดได้ขอประทานนามพระประธานในอุโบสถ ต่อสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก และได้รับประทานนามว่า พระพุทธคุ้มมงคลศิริ

พระเจ้าทันใจพุทธชยันตีสี่มุมเมือง การจัดสร้างพระเจ้าทันใจนี้เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง สมโภชพุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ในขณะนั้น คือ นายเกษม วัฒนธรรม มีนโยบายให้สร้างพระเจ้าทันใจขึ้นในสี่มุมเมืองของจังหวัดแพร่ เรียกว่า พุทธชยันตีสี่มุมเมือง ซึ่งทางทิศเหนือคณะสงฆ์จังหวัดแพร่มีมติให้สร้างที่วัดคุ้มครองธรรมในวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 7 ใต้ เดือน 9 เหนือ ตรงกับวันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ต้นโพธิ์วัดคุ้มครองธรรมในอดีตภายในวัดคุ้มครองธรรมมีต้นโพธิ์อยู่ใกล้กันสองต้น คาดว่าน่าจะปลูกพร้อมๆ กับการสร้างวัด ต่อมาราวปี พ.ศ. 2503 ต้นโพธิ์ตายลงไปหนึ่งต้น ปัจจุบันต้นโพธิ์ที่เหลือนี้มีเส้นรอบวง 14 เมตร มีความสูง 25 เมตร

ประเพณีที่สำคัญของวัดคุ้มครองธรรมประเพณีแห่ไม้ง่ามค้ำศรีมหาโพธิ์ต้นโพธิ์ตามตำนานเป็นต้นไม้สัญลักษณ์ ประจำศาสนาพุทธ และตามความเชื่อมาแต่โบราณกาล จะมีประเพณีนำไม้ไปค้ำต้นโพธิ์ เพื่อค้ำบ้าน ค้ำเมือง ค้ำพระพุทธศาสนา ตามวัดที่มีต้นโพธิ์ใหญ่ๆ จากแนวคิดนี้ คุณครูสวัสดิ์ สังเวียนวงศ์ จึงได้นำเรื่องนี้มาปรึกษากับ พระครูมงคลธรรมรักษ์ ว่าน่าจะทำไม้ง่ามค้ำต้นศรีมหาโพธิ์จำนวน 3 ต้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีของพุทธศาสนิกชนทั้ง 3 หมู่บ้าน คือ บ้านคุ้ม หมู่ที่ 2 (นายเฉลิม ปลาลาศ ผู้ใหญ่บ้าน) บ้านต้นผึ้ง หมู่ 11 (นายสมคิด บุญยืน กำนัน) และบ้านหล่าย หมู่ที่ 12 (นายสว่าง พวงพยุง ผู้ใหญ่บ้าน) เพราะเป็นคณะศรัทธาวัดเดียวกัน
ทางวัดจึงได้กำหนดทำพิธียกไม้ง่ามค้ำศรีมหาโพธิ์ขึ้นในวันอาทิตย์ ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554 โดยมีนายอนุวัช วงศ์วรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ เป็นประธานในพิธียกไม้ง่ามค้ำศรีต้นมหามงคลรวมพลังสามัคคี ทั้ง 3 หมู่บ้าน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในพระพุทธศาสนา และเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสองตั้งแต่นั้นมา และวันที่ 24พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 นายนิพนธิ์ นางไฉน คำชื่น พ.ท. ดำรงค์ ส.อ. หญิงวิรัช กุลเศรษฐ์พร้อมครอบครัว ได้ถวายพระสิงห์ ประดิษฐาน ณ ต้นโพธิ์วัดคุ้มครองธรรม และการท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ ได้บรรจุเข้าปฏิทินการท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 เป็นต้นมา
ประเพณี 9 เป็ง ประเพณี 9 เป็งเป็นประเพณีส่งเสริมและสืบสานวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ ของไทย เพื่อให้ชุมชนมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมและแสดงพลังความสามัคคี ยึดถือปฏิบัติและยึดมั่นในประเพณีดั้งเดิมของไทยที่เคยปฏิบัติมาให้เป็นมรดกตกทอดถึงลูกหลานภายหน้าสืบไป เนื่องจากวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 เหนือ (เก้าเป็ง) ซึ่งเป็นวันที่ทางวัดจัดเป็นประเพณีของทางวัดและของหมู่บ้านเป็นประจำทุกปีโดยจัดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 เพื่อทำพิธีสะเดาะเคราะห์สืบชะตาของพระสงฆ์และคณะศรัทธา มีการสวดเบิกเพื่อเป็นสิริมงคลตามประเพณีโบราณ



ร่วมแสดงความคิดเห็น