เรื่องราวนักเรียน ผู้ปกครอง ร.ร.บ้านสลก อ.วังชิ้น ติดตามทวงเงินออมทรัพย์รายนี้ เกิดขึ้นเวลา 10.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ผู้ปกครอง และนักเรียนโรงเรียนบ้านสลก ต.แม่เกิ๋ง อ.วังชิ้น จ.แพร่ ไปที่ สพป.แพร่ เขต 2 เดินทางไปที่สภ.วังชิ้น ติดตามความคืบหน้าดำเนินคดีครูโรงเรียนบ้านสลก อ.วังชิ้น จ.แพร่ ที่มีพฤติกรรมโกงเงินออมทรัพย์นักเรียนทั้งโรงเรียนไปจำนวน 429,367 บาท พบว่าครูผู้ก่อปัญหายังไม่นำเงินมาคืนตามข้อตกลง จึงได้พากันเข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวังชิ้น
โดยนาย นายวิทิต เที่ยงไทย นายอำเภอวังชิ้น ได้นำเข้าหารือร่วมกันที่ห้องประชุมอำเภอวังชิ้น เพื่อหาข้อยุติในการแก้ปัญหาดังกล่าวปัญหาครูยักยอกเงินออมทรัพย์นักเรียนมีการแจ้งความดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ไปแล้วโดยมีการลงบันทึกประจำวันมีสัญญาว่าจะคืนเงินให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง จำนวน 429,367 บาท ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นี้ เวลา 10.00 น. ซึ่งในวันนี้นางอร (นามสมมุติ) ครูการเงินโรงเรียนบ้านสลก ผู้ก่อเหตุก็ผิดสัญญาอีก ทำให้นางสาวธิติธร สืบสมุทร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสลก และผู้ปกครองต้องดำเนินคดี ต่อไป โดยมี ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ นันทยานนท์ สภ.วังชิ้น เข้ารับเรื่อง เพื่อติดตามคดีดังกล่าวจากผู้ปกครองไว้แล้ว และรับปากว่าจะเร่งดำเนินคดีต่อไป
นางสาวจิตวิภา คำลือ ผู้ปกครองนักเรียนบ้านสลก กล่าวว่า ครูการเงินที่ก่อปัญหาขณะนี้ได้ย้ายออกไปจากโรงเรียนแห่งนี้แล้ว โดยมีการยักยอกเงินออมทรัพย์ของนักเรียนจำนวน 429,367 ไป ก่อนหน้านี้มีการทวงเงินคืนก็ได้รับปากว่าจะคืนให้หลายครั้ง แต่ก็ผิดนัด มีการจ่ายเช็คให้กับ ผอ.โรงเรียนแต่ปรากฏว่าเป็นเช็คไม่มีเงินในธนาคาร (เช็คเด้ง) ล่าสุดสัญญากันที่ สภ.วังชิ้นว่าจะคืนเงินในวันนี้ แต่เมื่อถึงเวลาผู้ปกครองมารอจำนวนมากก็ไม่มาตามนัด นอกจากจะต้องดำเนินคดีแล้วยังต้องการให้เหตุการณ์นี้ไม่เกิดกับโรงเรียนอื่นๆ อีกต่อไป จึงต้องไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมและวอนสื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไปอีก ถือเป็นการนำไปสู่การปฏิรูปการศึกษาไปด้วย
ผลการเจรจาที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวังชิ้น โดยนายวิทิต เที่ยงไทย นายอำเภอวังชิ้นกล่าวว่า ไม่สามารถหาข้อยุติได้เนื่องจากศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไม่มีอำนาจสั่งการ จึงได้บันทึกข้อมูลทั้งหมดเสนอต่อนายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เพื่อสั่งการถึงต้นสังกัดคือ สพป.แพร่ เขต 1 ดำเนินการลงโทษต่อไป ซึ่งผู้ปกครองที่มารอรับเงินตามข้อตกลงต่างไม่พอใจแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องรอให้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของทางราชการต่อไป
ผู้ใกล้ชิด นางอร ครูการเงิน คนหนึ่ง ขอสงวนนาม กล่าวกับ ผู้สื่อข่าว เรื่องการยักยอกเงินออมทรัพย์ ร.ร.บ้านสลกนั้น น.ส.พรก็ได้พยายามหาเงินมาชดใช้เป็นระยะๆ ดอกผลที่ได้จากการยืมเงินออมทรัพย์ทางโรงเรียนก็ได้รับประโยชน์นำมาใช้ในกิจการต่างๆเพียงแต่ว่า นางอรได้รับการโยกย้ายไปอยู่อีกโรงเรียน อยู่กันคนละเขต ผู้ปกครองนักเรียนหวั่นว่ากลัวจะไม่ได้เงินคืน ขณะนี้ น.ส.พร ก็ได้ทำเรื่องกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ไปชดใช้ กำลังได้รับการอนุมัติ และจะนำเงินไปคืนให้ คาดว่าเรื่องจะจบลงด้วยดี
สมฤทธิ์ ชัยพลังฤทธิ์/แพร่
ร่วมแสดงความคิดเห็น