ชานมทำพิษ! หนุ่มจีนช็อก ตรวจเลือดกลายเป็นน้ำนม

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สื่อจีนหลายสำนัก นำเสนอข่าว การตรวจพบ นมในเลือดของชายหนุ่มวัย 24 ปี ชาวเมืองหลิ่วโจว ที่ถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉิน หลังมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียนโดยไม่ทราบสาเหตุ แพทย์เจาะระดับน้ำตาลในเลือดพบ  “ค่าสูงจนเครื่องตรวจวัดไม่ได้” และตรวจพบ “โรคชรา” ที่ทำให้อวัยวะหลายส่วนเสียหาย สาเหตุเพราะ ดื่มชานมวันละ 4 แก้ว! ทุกวัน

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นายเถียน หนาน ( Tan Nan ) อายุ 24 ปี ชาวเมืองหลิ่วโจว มณฑลกวางสี ประเทศจีน ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลฉินหนาน ด้วยอาการเจ็บป่วย “โรคชรา” รุมเร้า ทั้งโรคกรดคีโตจากเบาหวาน อาการบาดเจ็บที่ไตเฉียบพลัน ภาวะโพแทสเซียมสูง ความดันโลหิตสูง กรดกรดยูริกเกิน ไขมันพอกตับ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ และ ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน

ต่อมาแพทย์ได้ทำการตรวจเลือดดำของ เถียน หนาน พบว่าระดับน้ำตาลในเลือดของเขา เกินค่ามาตราฐานกว่า 4 เท่า และเมื่อเจาะเลือดออกมาปรากฎว่า เลือดของเขามีลักษณะคล้ายน้ำนม  ทำให้แพทย์ต้องเร่งหาสาเหตุของโรคต่างๆ เหล่านี้ จนพบว่าสาเหตุมาจากการกินของชอบอย่าง ชานม ที่ เถียน หนาน กินอยู่ทุกวัน

จากรายงานประวัติของ เถียน หนาน ทำให้ทราบว่าเขาเป็น “คนรักชานมตัวยง” เพราะนิสัยชอบดื่มชานม อย่างน้อยวันละ 4 แล้ว ที่บางครั้งมากถึง 6 แก้ว เมื่อตอน เถียน หนาน ไปทำงานอยู่ที่เซินเจิ้นในปีที่แล้ว ถึงแม้เขาจะสังเกตว่าตัวเองอ้วนขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดความรักที่มีต่อการกินชานมแต่อย่างใด และเมื่อ เถียน หนาน กลับมาทำงานที่เมืองหลิ่วโจวบ้านเกิด เขาก็ยังติดนิสัยดื่มชานม “วันละ 4 แล้ว” เหมือนเดิม

จนกระทั่งปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เถียน หนาน เริ่มมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และอาการไม่สบายอื่นๆ ร่วมอย่างหนัก  ครอบครัว และเถียน หนาน คิดว่าเขาคงกินอาหารไม่ดี ไม่ถูกสุขลักษณะ จึงมีอาการดังกล่าว ก่อนที่แม่จะนำเขาส่งโรงพยาบาลจนตรวจพบสาเหตุที่แท้จริง  

จากรายงานข่าวของ CCTV จีน ชี้ให้เห็นว่า ชานมที่มีความหวานปกติ มีน้ำตาลประมาณมากถึง 34 กรัม ต่อแก้ว และการสำรวจยังพบว่าหากบรรจุในแก้ว 750 ซีซี จะมีปริมาณน้ำตาลสูงถึง 99 กรัม ซึ่งเท่ากับน้ำตาล 20 ซอง ปริมาณคาเฟอีนอยู่ที่ประมาณ 270 มก. และสูงสุดคือ 487 มก. ซึ่งเทียบเท่ากับปริมาณกาแฟ 4 แก้ว และยังมีไขมันทรานส์ในชานมอีกด้วย

จากรายงานล่าสุด เถียน หนาน พ้นขีดอันตรายแล้ว หลังจากเข้ารับการรักษาในห้องไอซียูกว่า 1 สัปดาห์ แพทย์เตือนว่า การบริโภคน้ำตาลและไขมันมากเกินไปในระยะยาวจะทำให้อวัยวะของมนุษย์ทำงานหนักเกินไป ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดโรคเฉียบพลัน และโรคเรื้อรังต่างๆ สุดท้ายหากเราต้องการดื่มเครื่องดื่มเพื่อคลายร้อน ดับกระหาย หรือจะดื่มเพราะหลงใหลในรสชาติ ก็ควรระมัดระวังอย่าดื่มมากจนเป็นภัยต่อร่างกาย

ขอบคุณข้อมูลจากสำนักข่าวจีน Apple Daily, Yahoo News, Sinchew

ร่วมแสดงความคิดเห็น