จังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พร้อมขับเคลื่อนและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
วันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 08.30 น. ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน (warroom) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ จากห้องประชุมปฏิบัติการศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (pm2.5) องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมผ่าน video conference

สำหรับการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า สถานการณ์ไฟป่าปีนี้จะรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านจากปัญหาการสะสมของเชื้อในพื้นที่ป่า ทั้งนี้ได้เน้นย้ำ ทิศทางการดำเนินงานในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยให้แต่ละพื้นที่ประชาสัมพันธ์เชิงรุก พร้อมยกระดับปฏิบัติการ จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก และยกระดับการบริหารจัดการเชื้อเพลิงครบวงจร ชิงเก็บ ลดเผา ตลอดจนกำกับดูแลการดำเนินงาน ลดจุดความร้อน ป้องกันและควบคุมการเกิดไฟในทุกพื้นที่
ทั้งนี้ นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สำหรับจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีจุดความร้อนสะสมทั้งหมด 211 จุด คิดเป็นรัอยละ 4.05 ของจุดความร้อนสะสมปี 2565 หรือ คิดเป็นร้อยละ 2.25 ของค่าเป้าหมายปี 2566 ซึ่งทางจังหวัดตั้งเป้าหมายปี 2566 ไม่เกิน 9,378 จุด อำเภอที่มีจุดความร้อนสูงสุด ได้แก่ อำเภอปาย จำนวน 51 จุด โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ดำเนินการจัดทำแนวกันไฟป่าแต่ละพื้นที่โดยได้รับความร่วมมือหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อลดการเกิดไฟป่าต่อไป

ในส่วนของการดำเนินการแก้ไขอำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยืนยันว่าได้มีแนวทางในการปฏิบัติการของทุกหน่วยงานแล้ว โดยได้มีการจัดทำแผนงานและการกำหนดรูปแบบการทำงานอย่างชัดเจน โดยเน้นการสื่อสานการสร้าความรู้ความเข้าใจให้กับภาคประชาชนในการเข้ามาร่วมในการทำงาน และจะมีการยกย่องหน่วยงานภาคประชาสังคม ที่มีบทบาทสำคัญในการรณรงค์ลดปัญหาไฟป่าในพื้นที่ด้วย เพื่อพร้อมขับเคลื่อนและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น