หลายคนคงเคยได้ยินหรือเคยคุ้นหูกันมากับประเพณีการเทศน์มหาชาติ ในทางล้านนา(ทางภาคเหนือ)จะมีการเรียกไปอีกแบบหนึ่งคือ การตั้งธรรมหลวง เป็นประเพณีที่มีการเทศนาธรรมที่ใช้เวลานาน ตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงหัวค่ำ มีผู้คนจำนวนมากมาฟังการเทศนาธรรมเพราะเชื่อว่าเป็นอานิสงส์ผลบุญอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นพิธีที่จะมีแค่ปีละครั้งเดียวเเท่านั้น
การตั้งธรรมหลวง(การเทศน์มหาชาติ)ส่วนใหญ่จะมีการจัดขึ้นใช่วงเทศกาลลอยกระทง(ยี่เป็ง)ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือนสิบสอง เหตุผลในการจัดงานในช่วงนี้เพราะว่าเป็นช่วงที่ชาวบ้านในสมัยอดีตนั้นว่างจากการทำนาปลูกข้าว ว่างจากการทำเกษตรกรรม วันจัดงานส่วนใหญ่มักจะมี 2 วัน ไม่เกิน 3 วันเพราะการตั้งธรรมหลวงนั้นจะต้องฟังเทศน์ธรรมดาหรือเทศน์ธรรมวัตรก่อน 3 กัณฑ์คือ คาถาพัน มาลัยต้น มาลัยปลาย หรือที่เรียกว่ามาลัยหมื่น มาลัยแสน และอานิสงส์เวสสันตระก่อน 1 วัน บางวัดอาจจะเทศน์เรื่อง “ไขวิบากเวสสันตระ” หรือพูดถึงกรรมเก่าที่ทำให้พระเวสสันดร ตลอดจนบุคคลในเรื่องทั้งหมดได้ประสบกับเคราะห์กรรมแตกต่างกันและวันถัดไปจึงมีการเทศน์มหาชาติ

โดยส่วนใหญ่แล้วนั้นการตั้งธรรมหลวง(เทศน์มหาชาติ)จะเป็นการเทศนาธรรมเกี่ยวกับพระเวสสันดรชาดก(มหาชาติ)ซึ่งเป็นชาดกที่เกี่ยวกับพระชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์(พระพุทธเจ้า)ที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวที่เปรียบเสมือนบททดสอบก่อนที่จะได้มาประสูติและตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในชาติต่อมา โดยมีเนื้อหาในพระเวสสันดรชาดกมีทั้งหมด 13 กัณฑ์ 1000 พระคาถา ดังนี้
1.กัณฑ์ทศพร 19 คาถา กล่าวถึง พร10ประการที่พระนางผุสสดีมาขอพรจากพระอินทร์ เพื่อที่จะจุติเป็นมารดาของพระเวสสันดร
2.กัณฑ์หิมพานต์ 134 คาถา กล่าวถึง การบรรยายลักษณะป่าหิมพานต์ที่พระเวสสันดรออกบวช
3.กัณฑ์ทาน 209 คาถา กล่าวถึง การให้ทานของพระเวสสันดรบริจาคราชรถแก่ผู้ที่มาทูลขอก่อนถูกไล่ออกจากเมือง
4.กัณฑ์วนประเวศน์ 57 คาถา กล่าวถึงการเดินทางไปสู่เขาวงกตที่พระเวสสันดรบวชเป็นฤษี
5.กัณฑ์ชูชก 79 คาถา กล่าวถึงชูชกที่ตามไปขอลูกของพระเวสสันดร
6.กัณฑ์จุลพน 35 คาถา กล่าวถึง การบรรยายป่าไม้ ฝูงสัตว์น้อยใหญ่ในป่าเล็กและชูชกได้ทางไปสู่เขาวงกต
7.กัณฑ์มหาพน 80 คาถา กล่าวถึง การบรรยายป่าไม้ ฝูงสัตว์น้อยใหญ่ในป่าใหญ่
8.กัณฑ์กุมาร 101 คาถา กล่าวถึง การให้ทานพระนางกัณหาและพระชาลีเเก่ชูชก
9.กัณฑ์มัทรี 90 คาถา กล่าวถึง พระนางมัทรีที่ถูกขวางด้วยสัตว์ป่าทำให้มาไม่ทันหลังจากที่ชูชกพาลูกไป
10.กัณฑ์สักกบรรพ์ 43 คาถา กล่าวถึง พระอินทร์แปลงกายเป็นยาจกมาขอพระนางมัทรี
11.กัณฑ์มหาราช 69 คาถา กล่าวถึงพระเจ้าสัญชัยบิดาของพระเวสสันดร
12.กัณฑ์ฉกษัตริย์ 36 คาถา กล่าวถึง พระชาลีกับพระนางกัณหาได้พบกับพระไอยกา( ปู่ ) หลังจากที่ชูชกพาตัวไปเเลกค่าไถ่
13.กัณฑ์นคร 48 คาถา กล่าวถึงขบวนของเหล่ารุกขเทวดและครอบครัวอัญเชิญพระเวสสันดรกลับเมือง
จุดมุ่งหมายของการเทศน์มหาชาติหรือการตั้งธรรมหลวงนั้นมีหลากหลายประการ หากมองในมุมของวิชาการนี้คงจะเป็นรวบรวมเอาเนื้อหา คาถา คัมภีร์ธรรมต่างๆจัดไว้เป็นหมวดหมู่ ไม่ปะปนกัน เป็นการส่งเสริมให้มีการเขียนคัมภีร์ธรรมที่เป็นวิทยาการเพิ่มเติมมากขึ้น เป็นการฝึกให้พระภิกษุสามเณรมีความรู้ด้านการอ่าน การเทศนาธรรมเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ยังเสริมสร้างความสามัคคีแก่กลุ่มชาวบ้านเพราะเป็นงานที่ใหญ่ชาวบ้านต้องร่วมแรงร่วมใจกันในการจัดเตรียมงานทั้งก่อนงานเริ่มและหลังงานเสร็จทุกคนต่างก็จะช่วยเหลือกันอย่างพร้อมเพรียงกันเพื่อให้งานนั้นสำเร็จไปได้ด้วยดี พร้อมทั้งเป็นการสืบทอดประเพณีอันดีงามนี้สืบไปเรื่อยๆและมีข้อคิดคติสอนใจทอดแสรกไปในเนื้อหาของพระเวสสันดรชาดกด้วย ในด้านของความเชื่อ ชาวล้านนาต่างก็เชื่อกันว่าอานิสงส์ของการฟังเทศน์มหาชาตินั้นเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก หากใครสามารถฟังจนจบครบทั้ง 13 กัณฑ์ได้จะได้ไปเกิดร่วมกับพระศรีอริยเมตตรัยโพธิสัตว์ในอนาคตกาล ทั้งนี้แต่ละกัณฑ์นั้นจะมีอานิสงสของแต่ละกัณฑ์ตามปี 12 ราศี ผู้เข้าฟังหากไม่มีเวลามากพอก็สามารถเลือกฟังเทศน์ตามราศีของตนเองก็ได้ เพื่อเป็นอานิสงส์ผลบุญเเก่ตนเอง สืบชะตาอายุของตนเอง

ในปัจจุบันนี้ในยุคที่ทุกสิ่งทุกอย่างต่างก็ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้บางประเพณีก็ค่อยๆจาง หายไปจากท้องถิ่น หายไปจากชุมชน เเต่ทว่าประเพณีการฟังเทศน์มหาชาติ(การตั้งธรรมหลวง)นั้นยังคงมีอิทธิพลกับชาวล้านนาที่ให้ความสำคัญกับประเพณีนี้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามและประเพณีนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเพณีของชาวล้านนายังคงยึดถือสืบต่อกันเรื่อยมาจวบจนถึงทุกวันนี้ ในทุกปีวัดต่างๆเช่น วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จะได้มีการจัดประเพณีตั้งธรรมหลวงนี้ขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน
ขอขอบคุณที่มาจาก : สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และสำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
ร่วมแสดงความคิดเห็น