อย่างห้าว สองหนุ่มรุมน้อง นร.วัย 17 ขณะติดไฟแดง แยกสถานีรถไฟ ทั้ง ๆ ที่ขี่รถมาดี ๆ ล่าสุดทางแม่เด็กแจ้ง ตร.แล้ว ยันจะดำเนินคดีถึงที่สุดเพื่อให้เป็นบทเรียน
คลิปวงจรปิดบนถนนบริเวณสี่แยกไฟแดงสถานีรถไฟ ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ ช่วงเวลาประมาณ 16.10 น. ของวันที่ 23 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา บันทึกภาพเหตุการณ์นักเรียนชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์จอดติดไฟแดงอยู่บริเวณแยกดังกล่าว แต่แล้วสักพักได้มีเด็กวัยรุ่นสวมชุดดำสองคนขี่รถจักรยานยนต์ตามมาจอดข้างๆ แล้วพูดจาหาเรื่องและได้ใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ของเด็กนักเรียนจนเซ แถมเด็กวัยรุ่นทั้งสองคนยังได้ทำการชกใส่ ก่อนจะขี่รถไปโดยที่เด็กนักเรียนคนดังกล่าวยังไม่ทันตั้งตัวและกำลังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว
ต่อมาทางเด็กนักเรียนชายรายนี้ ได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นแจ้งให้กับทางผู้ปกครองทราบ และได้ทำการติดตามเรื่องจนได้หลักฐานเป็นภาพวงจรปิดที่เกิดเหตุ จึงได้นำมาโพสต์ลงโซเชียลเพื่อขอให้ผู้พบเห็นเหตุการณ์แจ้งเบาะแสของวัยรุ่นทั้งสองคนที่ก่อเหตุ พร้อมทั้งได้เข้าดำเนินการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง หลังเกิดเหตุ
ขณะที่ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามกับทาง มารดาของเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้าย บอกว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่ลูกชายเลิกเรียนและกำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปหาอะไรทาน เพื่อก่อนจะไปเรียนพิเศษ โดยน้องได้เล่าให้ตนฟังว่า ตอนนั้นขี่รถไปปกติไม่ได้ไปมีปัญหากับใคร จนมาถึงบริเวณไฟแดงที่เกิดเหตุก็จอดรถรอสัญญาณไฟตามปกติ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีวัยรุ่นสองคนขี่รถมาจอดข้างๆ แล้วพูดหาเรื่อง ซึ่งในตอนนั้นน้องก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเลย แต่วัยรุ่นสองคนที่มาหาเรื่องก็ได้ใช้เท้าถีบรถน้อง แล้วพากันใช้หมัดต่อย แต่น้องหลบทำให้โดนต่อยเข้าที่แขน แล้วหลังจากนั้นก็ขี่รถออกไป
ต่อมาหลังเกิดเหตุน้องก็ได้มาบอกกับตนซึ่งเป็นผู้ปกครอง ตนจึงได้ติดต่อหาหลักฐาน และได้ภาพกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ จึงนำเรื่องแจ้งความตำรวจทันที และมีการดำเนินการเร่งติดตามตัวคนก่อเหตุโดยทางโรงเรียนก็ได้ให้ความช่วยเหลืออีกทาง ซึ่งขณะนี้ก็มีความคืบหน้าว่าพอจะทราบตัวคนก่อเหตุแล้ว และอยู่ในระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี โดยตนก็ยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับคนก่อเหตุให้ถึงที่สุดเพราะอยากให้เป็นบทเรียน และไม่ให้ไปทำเช่นนี้กับใครอีก
ผู้ปกครองน้องผู้เสียหายบอกอีกว่า ปกติลูกชายเป็นเด็กที่ไม่เคยเกเร หรือไปหาเรื่องสร้างปัญหาให้กับใคร ที่ผ่านมาหลังเลิกเรียนก็จะขี่รถจักรยานยนต์ไปเรียนพิเศษ และกลับบ้านทันที โดยตนยืนยันได้ว่าลูกชายกับคนก่อเหตุไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุตอนนี้ ทางด้านลูกชายก็ได้ไปเรียนตามปกติ แต่จากการพูดคุยด้วยก็รู้สึกว่าลูกชายยังมีอาการตื่นกลัวและรู้สึกไม่ปลอดภัย โดยทางตนก็อยากให้ทาง้จ้าหน้าที่ได้ติดตามตัวคนก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว เพราะตนก็อยากรู้เหตุผลว่าทำไมคนก่อเหตุถึงมาทำร้ายลูกชายตน และอยากฝากถึงคนก่อเหตุด้วยว่า ไม่ควรไปทำพฤติกรรมแบบนี้กับคนอื่น เพราะเป็นการคุกคามและสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น




ร่วมแสดงความคิดเห็น