การสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ชายแดนฯ (ตุลาคม 67 – มิถุนายน 68)

การสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ชายแดนของกองทัพภาคที่ 3 (ตุลาคม 67 – มิถุนายน 68)

ตามที่รัฐบาล โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้มีนโยบายให้มีการบูรณาการงานด้านการข่าวเพื่อความมั่นคงของพลเรือน ตำรวจ ทหาร และทุกภาคส่วน ในการดำเนินการ สกัดกั้น ปราบปราม และจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง ตั้งแต่พื้นที่แนวชายแดน จนถึงพื้นที่ตอนในของประเทศ นั้น

หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) โดย กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 ได้ขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการ “SEAL STOP SAFE” ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่แนวชายแดนภาคเหนือ ปฏิบัติการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยการสกัดกั้น ยับยั้ง การลักลอบลำเลียงยาเสพติดตั้งแต่พื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ พลโท กิตติพงษ์ ชื่นใจชน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35) ได้ลงพื้นที่ เพื่อให้แนวทางการปฏิบัติงาน รวมทั้งเสริมสร้างขวัญและกำลังใจ แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ในห้วงที่ผ่านมาดังนี้.-
1. ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ครอบคลุมพื้นที่สำคัญ เช่น อำเภอฝาง แม่อาย เชียงดาว ไชยปราการ และเวียงแหง ซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขาสลับซับซ้อน ติดกับชายแดนประเทศเมียนมา มีช่องทางธรรมชาติจำนวนมากที่ใช้ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ ขอให้เน้นการลาดตระเวน ตรวจตรา และเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ จึงเป็นภารกิจสำคัญที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง (เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568)
2. ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นภูมิประเทศทุรกันดารและยากต่อการเข้าถึง โดยเฉพาะในอำเภอปางมะผ้า และอำเภอปาย มักเป็นจุดเสี่ยงของการเคลื่อนไหวของขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนเช่นกัน ให้เน้นการบูรณาการร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน รวมทั้งหน่วยงานท้องถิ่นในการติดตามข่าวสาร การตั้งจุดตรวจจุดสกัด และการสร้างเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อแจ้งเบาะแสอย่างทันท่วงที โดยจะเน้นหนักในสามด้านหลัก ได้แก่ การ SEAL หรือปิดล้อมแนวชายแดนไม่ให้ยาเสพติดเล็ดลอดเข้าสู่ประเทศ, การ STOP หรือการหยุดยั้ง และสลายโครงสร้างเครือข่าย นักค้า รวมถึงการขยายผลยึดทรัพย์ กลุ่มขบวนการยาเสพติด และการ SAFE หรือสร้างความปลอดภัยและภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนในพื้นที่ (เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568)
3. ในพื้นที่จังหวัดตาก มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติงานประจำฐานภายใต้สภาพภูมิประเทศที่ทุรกันดาร พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเฝ้าระวังแนวชายแดนให้ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง มาตรการ SEAL โดยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ซึ่งเป็นแนวทางปิดล้อมพื้นที่เสี่ยงตามแนวชายแดน ควบคุมเส้นทางธรรมชาติ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีสนับสนุนการลาดตระเวน เพื่อป้องกันยาเสพติดไม่ให้ทะลักเข้าประเทศ ทั้งตรวจสอบโกดังเก็บสารเคมีและสารตั้งต้น ซึ่งอาจถูกนำไปใช้ในการผลิตยาเสพติด โดยได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุมและติดตามอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งเน้นย้ำให้มีมาตรการป้องกันไม่ให้วัตถุอันตรายรั่วไหลสู่ภายนอก สำหรับมาตรการ STOP ภายใต้การควบคุมของตำรวจภูธรจังหวัดตาก (ภ.จว.ตาก) ที่เน้นการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และการตรวจสอบยานพาหนะต้องสงสัย เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้เข้าสู่เขตเมืองหรือพื้นที่ปลายทาง สนับสนุนด้วยมาตรการ SAFE โดยฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ซึ่งเป็นมาตรการเน้นการสร้างความปลอดภัยในชุมชน โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแส และร่วมกันต่อต้านยาเสพติดในพื้นที่ของตน (เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568)
4. ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย มอบหมายให้หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ณ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย สกัดกั้นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายตามแนวลำน้ำโขง ภายใต้ยุทธศาสตร์ SEAL มอบหมายให้ด่านศุลกากรแม่สาย ดำเนินการตามมาตรการควบคุมการส่งออกสินค้าผ่านแดน และสารเคมีที่อาจใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด พร้อมตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วย ณ จุดผ่านแดนแม่สาย 2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ STOP รวมทั้งได้เน้นย้ำการปฏิบัติงานของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ภายใต้ยุทธศาสตร์ SAFE ให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง (เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568)

สำหรับในปีงบประมาณ 2568 ที่ผ่านมา (ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 – 8 มิถุนายน 2568) สามารถจับกุมผู้กระทำผิดเหตุการณ์ที่สำคัญ จำนวน 165 ครั้ง จับกุมผู้กระทำผิด จำนวน 174 คน ตรวจยึดของกลางได้ดังนี้.-
1. ยาบ้า 238,000,000 เม็ด
2. ไอซ์ 14,049 กิโลกรัม
3. เฮโรอีน 376 กิโลกรัม
4. คีตามีน 1,454 กิโลกรัม
5. Happy Water 4.8 กิโลกรัม
6. เคมีภัณฑ์ 819 ตัน

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือมีเบาะแสข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ขอความกรุณาได้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในการปราบปรามและจับกุม อย่างเป็นรูปธรรมตามกฎหมาย อีกทั้งหากพี่น้องประชาชนมีความประสงค์จะส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยตรง ให้กับ พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 สามารถส่งข้อมูลผ่านระบบ Applications Line ชื่อ “สายตรงแม่ทัพภาคที่ 3” ID Line : ISOC3 เพื่อรับทราบข้อมูลและนำไปสู่การปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย สร้างความมั่นคงให้สังคมไทยสืบไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น