ผู้อำนวยการสถาบันกัญชาศาสตร์นานาชาติ ระบุกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายให้นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดไม่ส่งผลกระทบกับกลุ่มวิสาหกิจผู้ปลูกกัญชาเนื่องจากปลูกส่งให้เพื่อใช้ทางการแพทย์อย่างถูกต้อง แต่จะกระทบกับร้านจำหน่ายกัญชาที่ไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง ขณะที่ประเทศไทยพบว่ามีปัญหาการใช้กัญชาทางการแพทย์เนื่องจากแพทย์ในปัจจุบันมีความรู้การใช้กัญชาทางการแพทย์น้อย
จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขได้มีนโยบายการนำกัญชาให้กลับไปเป็นยาเสพติดพร้อมกันนี้ได้ประกาศให้กัญชาเพื่อการแพทย์ ซึ่งระบุว่าคนที่จะไปซื้อกัญชาต้องมีใบสั่งจากแพทย์รวมถึงใบรับรองแพทย์ประการว่ามีการเจ็บไข้ได้ป่วยประการใด รวมถึงมีข้อกำหนดว่าต้องมีแพทย์ประจำร้าน ด้าน ดร.แก้มหอม ณ ล้านช้าง ผู้อำนวยการสถาบันกัญชาศาสตร์นานาชาติ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าประเทศไทยไม่เคยปลดล็อกกัญชาเพื่อการสันทนาการซึ่งปลดล็อกกัญชาเพื่อการแพทย์ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2561 ส่วนอีกครั้งยุคอดีตรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขนายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้มีการปลดล็อกกัญชาพ้นจากยาเสพติดแต่เป็นพืชควบคุม เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ซึ่งมีกฎระเบียบในการควบคุมอยู่ ส่วนกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้ออกประกาศเมื่อ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมาระบุให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ แต่พอเข้าไปดูรายละเอียดประกาศที่ออกมาล่าสุดก็เหมือนกับประกาศหรือกฎที่เคยมีอยู่แล้ว คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหากับกลุ่มวิสาหกิจหรือผู้ปลูกกัญชาทางการแพทย์หรือร้านกัญชาเนื่องจากได้มีการขออนุญาตอย่างถูกต้องอยู่แล้ว ซึ่งเราแบ่งเป็น 2 กรณีวิสาหกิจชุมชนที่ปลูกกัญชาเริ่มทำตั้งแต่ 7 ปีที่ผ่านมาซึ่งใบอนุญาตได้มีเงื่อนไขระบุว่าปลูกให้กรมการแพทย์และใช้ในทางการแพทย์เท่านั้นหมายถึงว่าหากจะปลูกกัญชาต้องมีคู่ค้าหรือต้องส่งให้โรงพยาบาลเป็นต้นประเด็นนี้คนไทยทราบตลอดว่าห้ามปลูกกัญชาแล้วไปเร่ขาย
ส่วนประเด็นร้านขายกัญชา ซึ่งร้านไหนมีการขออนุญาตถูกต้องต้องมีการรายงานไปทางกระทรวงสาธารณสุขว่าขายให้ใครเท่าไหร่ เพียงแต่ว่าเมื่อกฎหมายฉบับนี้ออกมาใหม่ สิ่งที่เพิ่มเติมก็คือว่าเรื่องของการจะจำหน่ายช่อดอกกัญชาให้กับลูกค้าจะต้องมีใบรับรองแพทย์หรือใบสั่งยาแพทย์ ซึ่งประเด็นนี้ก็คงต้องถามกลับไปที่ภาครัฐว่าในส่วนของแพทย์ที่สั่งจ่ายยาทั้งแพทย์แผนไทย แพทย์ทางเลือก แพทย์แผนจีน หรือว่าทันตแพทย์ บุคลากรกลุ่มนี้มีความรู้ในการที่จะสั่งดอกกัญชาให้ผู้ป่วยอย่างไร เช่นสมมุติว่าคนไข้เป็นโรคซึมเศร้า เครียด ใช้ยาเคมีชนิดไหนอยู่ แพทย์ที่จะระบุว่าคนไข้รายนี้จะใช้กัญชาสายพันธุ์ไหนใช้ดอกกัญชาที่มีสาร TSC ทั้งหมดกี่เป็นเซ็นต์ในการบำบัดอาการป่วยของคนไข้เพราะว่ากฎหมายที่ออกมาแพทย์จ่ายยาให้ผู้ป่วยได้เฉลี่ยวันล่ะ 1 กรัม ถ้าเป็นการใช้กัญชายกตัวอย่างกลุ่มผู้ป่วยโรคไมเกรน กลุ่มโรคภูมิแพ้ โรคมะเร็งปอด ซึ่งต้องมีการคำนวนค่า TSC และวิธีการใช้เป็นต้น มีคำถามว่าบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดประมาณ 7 พันกว่าคนทั่วประเทศที่สามารถออกใบสั่งยาจากกัญชามีความรู้ในการใช้กัญชารักษาและบำบัดโรคได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนร้านขายกัญชาที่รับใบสั่งยาจากแพทย์ต้องมีใบอนุญาต ซึ่งต้องมีการอบรมให้บุคคลกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งในส่วน Shop หรือร้านจำหน่ายกัญชา ไม่ควรตั้งอยู่ใกล้กับสถานศึกษา 200 เมตร ห้ามใกล้วัดฯลฯ ส่วนหน้าร้านต้องปิดมิดชิดห้ามเป็นกระจกใสเพื่อไม่ให้เห็นตัวผลิตภัณฑ์ แต่ในบ้านเราก็มีบางรายที่ไปเปิดร้านขายกัญชาไม่ถูกต้องเช่นสวนสนุก ในห้างสรรพสินค้าแล้วก็มีการเอากัญชาใส่โถวางโชว์ ทำให้เด็กที่ผ่านไปมาเห็นสินค้าอีกด้วย
ผู้อำนวยการสถาบันกัญชาศาสตร์นานาชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประกาศ นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จะกระทบกับกลุ่มที่ไม่ได้ทำกัญชาตามกฎหมาย ส่วนการปลูกกัญชาการลงทุนค่อนข้างสูงมีวิธีการปลุกหลายแบบเช่นปลุกในพื้นที่ร่ม กรีนเฮ้าส์เป็นต้น เริ่มตั้งแต่ 1 ล้านบาท ไปจนถึง 200 ล้านบาทเลยทีเดียว ย้อนไปที่การบริหารจัดการกัญชาภาพรวมในประเทศไทยยังขาดความรู้เรื่องกัญชา ตั้งแต่ผู้บริหารที่ออกนโยบายจนถึงประชาชน เราควรจะมีการอบรมให้ความารู้เรื่องกัญชาตั้งแต่แพทย์ จนถึงเด็กนักเรียนอย่างเช่นที่นี่เราอบรมเด็กนักเรียนว่าทำไมไม่ควรจะไปใช้กัญชาจนถึงอายุ 20 ปี ยกตัวอย่างเช่นแพทย์แผนปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้กัญชาที่สกัดแล้วรักษาผู้ป่วยแต่จะมีผู้ป่วยบางรายอาจจะต้องใช้กัญชารักษาแบบภูมิปัญญาท้องถิ่นเช่นการสูบเป็นต้น










ร่วมแสดงความคิดเห็น