จากสถานการณ์ความไม่สงบฝั่งเมียนมาด้านตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก ที่เริ่มมีความรุ่นแรงขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. 68
ปรากฏเหตุการณ์ เมื่อ 11 ก.ค. 68 กองกำลังชนกลุ่มน้อย/ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ทิ้งระเบิดเป็นระยะๆ โจมตีทหารเมียนมาค่ายทีตาแหล่ บ.ทีตาแหล่ อ.วาเลย์ใหม่ จ.เมียวดี ด้านตรงข้าม บ.วาเล่ย์เหนือ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 3 กม. โดย ทหารเมียนมา ค่ายทีตาแหล่ ได้ทำการยิงปืนเล็กยาวเป็นระยะ ๆ ต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ดังกล่าว ซึ่งไม่ทราบผลการสูญเสีย และไม่มีผลกระทบต่อฝั่งไทย
กองกำลังนเรศวร โดย ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมด้วย รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร, ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู, ผู้บังคับกองบังคับการควบคุม หน่วยเฉพาะกิจราชมนู และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ เดินทางติดตามสถานการณ์บริเวณพื้นที่ บ.เวเล่ย์, บ.หมื่นฤาชัย และ บ.มอเกอร์ไทย อ.พบพระ และ ประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบจากการสู้รบใกล้แนวชายแดน
และเดินทางเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา โดยปัจจุบันมีพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จำนวน 2 แห่ง ในพื้นที่ อ.พบพระ มียอดผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา รวมจำนวน 457 คน โดยบูรณาการความร่วมมือในการดูแลตามหลักมนุษยธรรมของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก ซึ่งปฏิบัติตามแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร ได้เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอพบพระเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และ ดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ อย่างเต็มขีดความสามารถ ตลอด 24 ชั่วโมง
กองกำลังนเรศวร ขอแจ้งให้ทราบว่า ประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย และไม่สนับสนุนให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ใช้พื้นที่ประเทศไทยเป็นพื้นที่สนับสนุนผลประโยชน์ของกลุ่มตนเอง และ ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ สื่อมวลชน และทุกภาคส่วน ในการพิจารณาข่าวสารข้อเท็จจริงก่อนที่จะนำไปเผยแพร่ให้กับประชาชน
ร่วมแสดงความคิดเห็น