ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า โครงการเพิ่มศักยภาพการไหลของแม่น้ำปิง แก้ปัญหาอุทกภัยเมืองเชียงใหม่
พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการ “เพิ่มศักยภาพการรองรับและการไหลของแม่น้ำปิงเพื่อป้องกันอุทกภัยในเขตเมืองเชียงใหม่ ระยะเร่งด่วน” ณ พื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่รัฐบาลมอบหมายให้ สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เป็นหน่วยหลักในการขับเคลื่อน โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในจังหวัดเชียงใหม่
โครงการดังกล่าวถือกำเนิดขึ้นจากสถานการณ์อุทกภัยเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ทั้งในด้านชีวิต ทรัพย์สิน และเศรษฐกิจของประชาชนในพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในระดับภูมิภาค รัฐบาลจึงเร่งผลักดันให้มีการดำเนินการในระยะเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาและป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
การขุดลอกแม่น้ำปิงเพื่อขจัดตะกอนและสิ่งกีดขวางที่รบกวนการไหลของน้ำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำช่วงฤดูฝน และรองรับน้ำหลากที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่เศรษฐกิจของตัวเมืองเชียงใหม่ โครงการแบ่งออกเป็น 5 ตอน ครอบคลุมระยะทางรวมกว่า 41 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่ ต.สันโป่ง อ.แม่ริม ไปจนถึง ต.สบแม่ข่า อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน 2568 รวมระยะเวลาดำเนินงาน 120 วัน
ปัจจุบัน ความคืบหน้าของการขุดลอกในเฟสที่ 1 อยู่ที่ 36.54% โดยเร่งดำเนินงานในตอนที่ 2, 3 และ 4 ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจในเขตเมือง ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดความเสี่ยงและผลกระทบจากน้ำหลากในฤดูฝนปีนี้ได้ สำหรับ ความคืบหน้าของโครงการในภาพรวมอยู่ที่ 18.32%
ขณะเดียวกัน ทางหน่วยได้ ประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อสร้างการรับรู้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ทั้งผ่านสื่อท้องถิ่น สื่อสังคมออนไลน์ และการลงพื้นที่พบปะชาวบ้านริมแม่น้ำปิงโดยตรง เพื่อสร้างความเข้าใจในวัตถุประสงค์ของโครงการ พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาต่าง ๆ จากประชาชน เพื่อปรับการดำเนินงานให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนให้น้อยที่สุด
ทั้งนี้ หน่วยงานได้เน้นมาตรการลดผลกระทบระหว่างการปฏิบัติงาน อาทิ จัดรถบรรทุกน้ำล้างถนน ป้องกันฝุ่นละออง ควบคุมการขนย้ายดินโดยคลุมผ้าใบ และล้างล้อรถก่อนออกนอกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนรอบแนวปฏิบัติงาน ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“โครงการนี้ไม่เพียงเป็นมาตรการเชิงรุกในการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน หากยังเป็นภาพสะท้อนของการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกองทัพไทย ภาครัฐ และประชาชน ในการร่วมกันสร้างเมืองเชียงใหม่ให้ปลอดภัยจากอุทกภัยในอนาคต”
















ร่วมแสดงความคิดเห็น