“ภูมิธรรม” ลั่น! เรียกถกผู้ว่าฯ-ผบก.ทั่วประเทศ พรุ่งนี้! ใครไม่ร่วม “เด้งทันที!”

สุดเดือด! “ภูมิธรรม” ลั่น! เรียกถก “ผู้ว่าฯ-ผบก.ทั่วประเทศ” พรุ่งนี้! ใครไม่ร่วม “เด้งทันที!” เขย่าอำนาจ “ล้างบางมหาดไทย” หรือไม่?

17 กรกฎาคม 2568 – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้สร้างความฮือฮาด้วยการประกาศท่าทีที่เด็ดขาดขั้นสุดในการแก้ปัญหาวิกฤตของชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาเสพติดและอาชญากรรมอื่นๆ ที่กัดกินสังคมไทย

นายภูมิธรรมได้เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ทั่วประเทศใน วันนี้ (17 ก.ค. 68) โดยไม่รอช้า พร้อมยื่นคำขาดอย่างเข้มข้นว่า “ใครไม่มาร่วมประชุม จะถูกย้ายทันที!” นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่า รมว.มหาดไทย เอาจริง และต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม

ท่าทีอันเด็ดขาดของนายภูมิธรรม ไม่ได้เป็นเพียงการแสดงความมุ่งมั่นในการปราบปรามยาเสพติดเท่านั้น แต่ในแวดวงการเมืองและข้าราชการ ยังมีการวิเคราะห์กันอย่างกว้างขวางว่านี่คือ “ปฏิบัติการเช็คแถว” และ “การจัดระเบียบ” อำนาจภายในกระทรวงมหาดไทย เพื่อกระชับอำนาจของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ก่อนหน้านี้ไม่นาน หลังนายภูมิธรรมเข้ารับตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ก็มีกระแสข่าวร้อนแรงเกี่ยวกับการ “เด้งย้ายข้าราชการสายสีน้ำเงิน” หรือ “สายบุรีรัมย์” ในกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมักถูกโยงกับ พรรคภูมิใจไทย ที่มีฐานเสียงและอิทธิพลอย่างแข็งแกร่งในมหาดไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะกลุ่ม “บ้านใหญ่บุรีรัมย์” ที่มีเครือข่ายข้าราชการปกครองที่เติบโตมาจากสายงานนี้

ข่าวการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในมหาดไทยบางตำแหน่ง เช่น อดีตอธิบดีกรมการปกครอง ที่เคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ไปอยู่ในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ซึ่งลดทอนบทบาทในการบริหารโดยตรง แม้นายภูมิธรรมจะปฏิเสธว่าไม่ได้ล็อคเป้าสายสีน้ำเงิน แต่จาก “ผลงาน” ที่ปรากฏ ก็ถูกมองว่าเป็นการ “เขย่าฐานอำนาจ” เดิมอย่างชัดเจน

ดังนั้น การเรียกประชุมผู้ว่าฯ และ ผบก. ทั่วประเทศ พร้อมคำขู่ย้ายทันทีหากไม่มา จึงเป็นเสมือนการ “ชำระบัญชี” และ “คัดกรอง” ข้าราชการ ที่อาจไม่ให้ความร่วมมือ

นายภูมิธรรมย้ำว่าปัญหายาเสพติดคือ “ปัญหาหนักหน่วงและรุนแรงจริงๆ” ที่กำลังเป็น “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” และสร้างความไม่พอใจอย่างมากให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติที่สำคัญไม่แพ้เรื่องเศรษฐกิจ

“หากนำแต่ตัวเลขการจับกุมมา แต่ประชาชนในพื้นที่ไม่ยอมรับ ก็ถือว่าท่านทำงานไม่ประสบความสำเร็จ ถือว่าล้มเหลว” นายภูมิธรรมกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

รมว.มหาดไทยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของจังหวัด, นายอำเภอ, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่มีกำลังพลกว่า 6-7 แสนคน “เอกซเรย์ทุกพื้นที่ ทุกหมู่บ้าน” เพื่อกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติด โดยเฉพาะรายย่อยให้หมดสิ้น พร้อมเตือนเจ้าหน้าที่ว่า “ชาวบ้านรู้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่รู้ ก็ถือว่ามีความผิด” และจะไม่ปล่อยให้ผู้มีอิทธิพลหรือผู้ที่หาผลประโยชน์จากการนี้ลอยนวล

นายภูมิธรรมยังพุ่งเป้าไปที่ประเด็นปัญหาในวงการคณะสงฆ์ ที่สังคมกำลังจับตาอย่างหนัก โดยระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องของ “ความมั่นคง” ของสถาบันศาสนา และจากนี้ไปจะไม่ใช่แค่การจับสึกเท่านั้น แต่จะเริ่มเห็น “การจับกุมสีกาทั้งหลายที่มีส่วนในการทำให้เกิดปัญหา” ตั้งแต่ในวันนี้ (17 ก.ค.) เป็นต้นไป

“พระไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่คือผู้มีส่วนร่วมทำให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันของชาติ และถือว่ามีความผิดที่เกี่ยวข้องกับการเงิน” นายภูมิธรรมกล่าวอย่างชัดเจน ชี้ว่าอาชญากรรมได้แปลงร่างมาในหลายรูปแบบ และสิ่งเหล่านี้จะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจังเพื่อเป็นตัวอย่าง

นอกจากยาเสพติดและปัญหาในวงการสงฆ์ นายภูมิธรรมยังสั่งการให้จัดการผู้มีอิทธิพลทั้งหมด แหล่งมั่วสุม สถานบันเทิงที่ผิดกฎหมาย และปัญหาการทวงหนี้โหด โดยเชื่อมั่นว่าหากทุกฝ่ายมีความเข้มงวดจริงจังจะสามารถจัดการปัญหาเหล่านี้ได้

“เจ้านายทรงเป็นห่วงในเรื่องนี้” นายภูมิธรรมกล่าว พร้อมเตือนถึงประเด็นการ “ยกเลิกกัญชาและพืชกระท่อม” ที่กำลังดำเนินการอยู่ เนื่องจากสร้างปัญหาและทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียงจากการถูกจับได้ว่ามีของผิดกฎหมายเหล่านี้ถูกส่งออกจากไทยจำนวนมาก

รมว.มหาดไทย ย้ำความมุ่งมั่นในการทำงานและยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับวาระแห่งชาตินี้เป็นอย่างยิ่ง พร้อมสร้างเครือข่าย “ตาสับปะรด” ดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและจัดระเบียบสังคม เพื่อให้ประเทศกลับมามีความสงบสุขและประชาชนมีความปลอดภัย

ร่วมแสดงความคิดเห็น