“สุชาติ” ลุยเต็มสูบ 8 มาตรการ ดูดซับลำไย พร้อมแปรรูปกว่า 252,000 ตัน เดินหน้าเชิงรุก ทั้งใน-นอกประเทศ ดันตลาดส่งออก ดึงราคาทั้งระบบ
วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 — นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์ผลผลิตลำไยภาคเหนือที่กำลังทยอยออกสู่ตลาดในช่วงฤดูกาลปี 2568 โดยได้ตรวจเยี่ยม สหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด อ.สันป่าตอง แปลงสวนลำไย และบริษัท แปรรูปลำไย ณ บริษัท อาร์ เค ฟู๊ด จำกัด อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน โดยได้หารือกับกลุ่มเกษตรกรของสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางบรรเทาปัญหาราคาตกต่ำและการกระจุกตัวของผลผลิต
รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า “รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ ให้ความสำคัญกับสินค้าเกษตรทุกชนิด แต่ปีนี้ลำไยมีผลผลิตมากขึ้นจาก 9 แสนตัน เป็นกว่า 1 ล้านตัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าและวางแผนในการแก้ปัญหาไว้แล้ว โดยจะใช้มาตรการเดิมยังไม่พอ ต้องมีการบริหารจัดการครอบคลุม
วันนี้ตนจึงได้ลงพื้นที่เพื่อดำเนินมาตรการเชิงนโยบายเพื่อดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเร่งขับเคลื่อนมาตรการตั้งแต่ต้นฤดู โดยเน้นเชื่อมโยงตลาด และกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิต และรักษามาตรฐานการส่งออกโดยขยายตลาดใหม่ๆ ตั้งเป้าในการบริหารจัดการลำไยภาคเหนือ 151,000 ตัน โดยใช้ 8 มาตรการหลัก ได้แก่
- รวบรวมลำไย (สดช่อ) เพื่อส่งออก ปริมาณ 15,000 ตัน
- จัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ “Thai Fruits Festival 2025” ทั่วประเทศ
- เชื่อมโยงลำไยผ่านเครือข่ายพันธมิตร
ปริมาณรวม 65,555 ตัน
โดยใช้กลไกผู้ประกอบการ และห้างค้าปลีก-ค้าส่งในการร่วมมือระบายผลผลิต โดยให้ผู้ประกอบการรับซื้อลำไย (รูดร่วง) เกรด B ปริมาณ 60,000 ตัน ในราคานำตลาดไม่ต่ำกว่า กิโลกรัมละ 4-5 บาท และเชื่อมโยงนำมาจำหน่ายในห้าง แมคโคร โลตัส บิ๊กซี ท็อปส์ โก-โฮลเซลล์ และเดอะมอลล์ รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรโดยตรง เพิ่มอีกปริมาณ 5,555 ตัน
4.สับสนุนการรับซื้อผ่าน หน่วยงานรัฐ เอกชนผ่านบริษัทตลาดหลักทรัพย์ หน่วยงานราชการ บริษัทมหาชน เพื่อทำ CSR ตลอดทั้งฤดูกาล ปริมาณ 1,380 ตัน - สนับสนุนกล่องใส่ลำไย ฟรีค่าขนส่งโดยบริษัทไปรษณีย์ไทย
- เชื่อมโยงผู้ประกอบการและสถาบันเกษตรกร รับซื้อผลผลิตโดยตรง ปริมาณ 18,000 ตัน
- เชื่อมโยงสินค้าเข้าสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง 1,000 ตัน
- ขยายช่องทางใหม่ๆให้กับลำไย อาทิ ทำเป็นอาหาร เครื่องดื่มผ่าน ตู้เต่าบิน แอร์เอเชีย
นอกจากนี้ รมช.พาณิชย์ ยังเพิ่มปริมาณเป้าหมายการรวบรวมรับซื้อลำไย (รูดร่วง) เกรด A เพื่ออบแห้งส่งออกต่างประเทศ จากเดิม 50,000 ตัน (สด) เพิ่มเป็น 101,000 ตัน โดยผ่านโรงอบลำไยที่เป็นเครือข่ายของกรม กว่า 50 แห่ง ทั้งนี้ ยังได้กำชับให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในกลุ่ม 8 จังหวัดภาคเหนือ กำกับดูแลโรงอบลำไยในพื้นที่ให้เปิดรับผลผลิตจากเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดทำแผนเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดให้มีโรงอบรองรับเพียงพอกับปริมาณลำไยสดทั้งฤดูกาล
ในด้านการส่งออกลำไยไปต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เดินหน้าแผนตลาดการส่งออกอย่างจริงจัง ผ่านกลไกทูตพาณิชย์ ทั้ง 58 แห่งทั่วโลก ในการเร่งหาตลาดส่งออกลำไย และยังได้มีกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกผลไม้ ทั้งในรูปแบบการจับคู่เจรจาธุรกิจ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ และการส่งเสริมการขายผลไม้ผ่านห้างสรรพสินค้าและแพลตฟอร์มออนไลน์ในต่างประเทศ ซึ่งก่อให้เกิดมูลค่าเจรจาการค้ากว่า 5,500 ล้านบาท อีกทั้ง การประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ผลไม้ไทยผ่านคาแรคเตอร์ “น้องฉ่ำฉ่ำ” ที่ได้เปิดตัวในช่วงงานแสดงสินค้าอาหาร Thaifex-Anuga 2025 อีกด้วย
นายสุชาติ ยังกล่าวต่ออีกว่า “ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ ทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตร วางแผนจัดการเรื่องโซนนิ่ง และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ กระทรวงพาณิชย์จะต้องดูแลต้นทุนการผลิตให้พี่น้องเกษตรกร เพราะแม้ผลผลิตดี ราคาดี ถ้าต้นทุนสูง ก็ไม่ได้กำไร เราจึงต้องแก้ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ตนจะมีนโยบายธงเขียว ในการช่วยเหลือเกษตรกรให้ปุ๋ย ยาฆ่าแมลงราคาถูก ต้นทุนเกษตรกรต้องควบคุมให้ได้ นี่คือสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์จะทำตั้งแต่ต้นน้ำ ”
“ขอให้พี่น้องเกษตรกรมั่นใจว่า กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าสู้ดันเรื่องลำไยอย่างเต็มที่จนจบฤดูกาลแน่นอน และสำหรับสินค้าเกษตรชนิดอื่น เราจะเร่งเข้าไปดูแลตลาดอย่างต่อเนื่องไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำเดิม” รมช.พาณิชย์ กล่าวทิ้งท้าย




















ร่วมแสดงความคิดเห็น