ชาวบ้านรวมตัวร้องทุกข์ หลังถูกกรรมการกองทุนหมู่บ้านเบี้ยวจ่ายเงินปันผลนานนับปี

ชาวบ้านครึ่งร้อยรวมตัวร้องทุกข์อำเภอและตำรวจ หลังถูกกรรมการกองทุนหมู่บ้านเบี้ยวจ่ายเงินปันผลนานนับปี ด้าน ผกก.เชียงคำ ขอตรวจสอบเชื่อหากได้เงินคืนครบทุกอย่างจบ

วันที่ 2 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมาชาวบ้านผาลาด ม.3 ต.แม่ลาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา กว่าครึ่งร้อยได้รวมตัวเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อนายธวัช จรัสวรภัทร นายอำเภอเชียงคำ ในกรณีที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านหรือ กทบ. ไม่สามารถนำเงินออมสัจจะซึ่งเป็นการออมอีกรอบแบบหนึ่งมาปันผลให้กับชาวบ้านได้ โดยเรื่องราวดังกล่าวเริ่มมีปัญหากันตั้งแต่ปี 66 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ทางนายอำเภอเชียงคำ ได้มอบหมายให้นายกษิดิศ อินปั๋น ปลัดอำเภอฝ่ายศูนย์ดำรงธรรมเป็นคนรับเรื่องร้องทุกข์และสอบถามข้อมูลเพิ่มเต็มกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ หลังจากนั้นในช่วงบ่ายชาวบ้านก็ได้ไปที่ สภ.เชียงคำ เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเรื่องดังกล่าว โดยมีทาง พ.ต.อ.ถนัด ชุ่มมะโน ผกก.สภ.เชียงคำ มารับเรื่องด้วยตนเองพร้อมทั้งสั่งการให้ทางร้อยเวรทำคดีนี้อย่างรัดกุมที่สุด

นายเมืองมนต์ อายุ 50 ปี ตัวแทนชาวบ้านผาลาด ม.3 ต.แม่ลาว เปิดเผยว่า ในเรื่องที่ชาวบ้านรวมตัวกันมาแจ้งความร้องทุกข์ทั้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอและสภ.เชียงคำนั้น สืบเนื่องมาจากคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านไม่สามารถหาเงินมาคืนให้กับชาวบ้านได้ โดยเงินส่วนใหญ่เป็นออมที่เรียกว่าเงินออมสัจจะซึ่งจะเป็นการออมอีกรูปแบบหนึ่งภายใต้กองทุนหมู่บ้าน ทั้งนี้ก่อนหน้าปี 66 คณะกรรมการยังสามารถปันผลจากการออมเงินสัจจะนี้ให้กับชาวบ้านได้ทุกคนแต่พอเข้าปี 66 พบว่าการออมเงินสัจจะนี้เริ่มมีปัญหาโดยคณะกรรมการหมู่บ้านไม่สามารถปันผลกำไรให้กับผู้ออมได้ โดยได้มีการนัดประชุมหลายรอบเพราะชาวบ้านเริ่มเห็นความไม่โปร่งใสจนมีหลายคนเริ่มถอนเงินคืนจนล่าสุดชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายนั้นไม่สามารถถอนเงินต้นและเงินปันผลได้มีเพียงสมุดออมเงินที่ระบุตัวเลขแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ทั้งนี้การพูดคุยเจรจานั้นมีมาหลายครั้งโดยทางคณะกรรมการอ้างว่าจะหาเงินมาคืนให้ครบ จากที่ยอดเต็มจำนวนคือ 1.4 ล้านบาท และสามารถชี้แจงได้แค่ 8 แสนบาทเท่านั้น ส่วนอีก 6 แสนบาทกลับไม่รู้ว่าหายไปไหนด้วย ล่าสุดวันนี้ทางชาวบ้านได้เอาสมุดบัญชีกองทุนไปเช็คยอดพบเข้าเพียง 3 แสนกว่าบาท ทั้งนี้การประชุมครั้งสุดท้ายคือวันนี้ 2 ก.ย.68 ทางคณะกรรมการได้ระบุว่าจะนำเงินส่วนที่เหลือมาคืนให้จนครบหากไม่ครบให้แจ้งความดำเนินคดีได้ ซึ่งผลสุดท้ายก็ไม่มีการนำเงินมาคืนอ้างเพียงขอตรวจสอบไปเรื่อย ๆ ทำให้ชาวบ้านหลายคนไม่พอใจกับการประชุมครั้งล่าสุดและต้องเข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดคณะกรรมการทั้งหมดเช่นกัน

นายกษิดิศ เปิดเผยว่า วันนี้ที่ทางชาวบ้านเข้ามาร้องทุกข์กับทางอำเภอนั้นตอนนี้ได้รับเรื่องไว้เรียบร้อยแล้วและจะได้ส่งเรื่องให้กับทางอนุกรรมการคือมีนายอำเภอเชียงคำเป็นประธานในการตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ด้วย เห็นว่าการร้องครั้งนี้มี 2 เรื่องด้วยกันคือร้องการทำงานของผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านทั้งหมด ซึ่งหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหากมีความผิดจริงก็จะได้นำเนินการตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ถนัด กล่าวเสริมว่า ในเรื่องดังกล่าวตนได้สอบถามชาวบ้านทั้งหมดแล้วและให้ทางพนักงานสอบสวนร้อยเวรดำเนินการรับเรื่องร้องทุกข์ไว้ ทั้งนี้จะได้เชิญตัวตั้งแต่ประธานกองทุนหมู่บ้านคือผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการมาสอบสวนอย่างละเอียด ซึ่งในการพูดคุยกับชาวบ้านนั้นส่วนใหญ่ใจจริงไม่ได้ประสงค์จะให้เป็นคดีความจนต้องมีคนติดคุก หากกาเงินมาคืนให้ครบตามจำนวนชาวบ้านก็จะไม่เอาเรื่องเพราะเห็นว่าทั้งคณะกรรมการก็เป็นญาติพี่น้องกันทั้งนั้น แต่ถ้าหากว่าไม่สามารถหาเงินมาคืนจนครบได้ก็จำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมายกันต่อไป 1 คน ต่อ 1 คดีมีเท่าไหร่ก็คูณไปเท่านั้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น