ปภ. เผย 28 – 30 ก.ย. เตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมากจากพายุ “บัวลอย” กำชับทุกภาคส่วนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ด้านจังหวัดที่ฝนตกหนักเมื่อวานนี้ได้ส่งเครื่องจักรกลฯ เข้าช่วยเหลือพื้นที่แล้ว
วันนี้ (28 ก.ย. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เผยอิทธิพลจากพายุ “บัวลอย” ทำหลายพื้นที่ในประเทศไทยฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 28 – 30 ก.ย. 68 กำชับทุกภาคส่วนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดเพื่อช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที ด้านจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักเมื่อวานนี้ (27 ก.ย. 68) ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าช่วยเหลือในพื้นที่แล้ว
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า จากการติดตามสถานการณ์สภาวะอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด คาดว่าพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” จะขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงเช้าของวันที่ 29 กันยายน 2568 ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยได้รับผลกระทบ โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 28 – 30 ก.ย. 68 จึงกำชับให้จังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมในการออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชน ในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้เฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเมื่อวานนี้ (27 ก.ย. 68) ได้ส่ง Cell Broadcast แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัด ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม จากอิทธิพลของพายุ “บัวลอย”
โดยเมื่อวานนี้ (27 ก.ย. 68) มีรายงานเกิดสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ อาทิ จ.เพชรบูรณ์ เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้แม่น้ำป่าสักและลำน้าสาขามีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำบางอ่างล้นพื้นที่กักเก็บน้ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ ในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.หล่มเก่า อ.หล่มสัก อ.เขาค้อ อ.เมืองฯ อ.หนองไพ่ อ.บึงสามพัน และ อ.ศรีเทพ ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัย ไม่ว่าจะเป็น รถขนย้ายผู้ประสบภัย รถประกอบอาหาร รถผลิตน้ำดื่ม และเรือท้องแบน เข้าช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนแล้ว ส่วนที่ จ.นครราชสีมา ได้เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ส่งรถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยลงพื้นที่เพื่ออพยพประชาชนและเคลื่อนย้ายสิ่งของไปที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ เพื่อเตรียมรับมือเหตุอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยไปสนับสนุนจังหวัดพื้นที่เสี่ยงภัยเพิ่มเติม เช่น ที่จังหวัดพิษณุโลก ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 9 พิษณุโลก ได้ส่งเรือพายพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 5 ลำ ซึ่งรับสนับสนุนเพิ่มเติมมาจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 8 กำแพงเพชร และเรือพาย จำนวน 20 ลำ ที่รับสนับสนุนจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 ลำปาง ไปสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพื้นที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ไว้ใช้สำหรับรับ-ส่ง ช่วยเหลือประชาชนในช่วงน้ำท่วม ส่วนที่ จ.มหาสารคาม ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 6 ขอนแก่น ได้ส่งเครื่องสูบน้ำขนาด 14 นิ้ว ไปช่วยเหลือก่อนหน้านี้ จำนวน 1 เครื่อง แล้ว แต่เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยขยายพื้นที่มากขึ้น จึงได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ ขนาด 14 เพิ่มอีก 1 เครื่อง เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่เขตเศรษฐกิจของเทศบาลตำบพยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.ย. 68 เวลา 06.00 น.) ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 15 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ ลำปาง อำนาจเจริญ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม และฉะเชิงเทรา กินพื้นที่ 69 อำเภอ 409 ตำบล 2,232 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 82,068 ครัวเรือน 268,848 คน และมีผู้เสียชีวิตรวม 7 ราย
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะเฝ้าระวัง ติดตาม และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุ “บัวลอย” อย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่ และขอให้ประชาชนติดตามรับฟังข่าวสารอย่างใกล้ชิดพร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการเพื่อความปลอดภัย












ร่วมแสดงความคิดเห็น