จากกกรณีกำนันสั่งให้ชุกปกครอง ล้อมวงจัดให้คู่กรณีที่เมาวิวาท จับคู่ชกกันบนเวทีรำวงงานกฐินของวัด ล่าสุดกำนันเปิดใจยอมรับถูกใจชาวบ้านแต่ไม่ถูกต้อง ล่าสุดนายอำเภอหางดงเรียกเข้าไปเข้ารายงานชี้แจงเหตุการณ์ ยืนยันเป็นการแก้ปัญหาที่ตั้งกฎไว้ล่วงหน้าแล้ว และคู่กรณีต่างก็ออมายืนยันรับผิดขอโทษกำนัน ผู้จัดงาน และสังคมที่ทำให้เกิดเรื่องเสื่อมเสียปรับความเข้าใจกันแล้วยอมรับว่าเมา
โซเชียลแห่แชร์งานกฐิน วัดแห่งหนึ่งใน อำเภอหางดง ตอนกลางคืนมีงานสมโภชมีรำวง แต่เกิดเหตุทะเลาะวิวาท แต่ทางกำนันของตำบลให้ผู้ทะเลาะวิวาทสองฝ่ายชกกันบนเวที ทางครอบครัวร้องสื่ออ้างไม่สมควร ควรจะจับแยกหรือแจ้งตำรวจให้ดำเนินการ จนเป็นที่มาของการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่ชาวบ้าน ได้ถ่ายไว้ขณะที่ทางผู้นำท้องถิ่นคือ กำนันตำบลหนองตองได้ประกาศให้ผู้ทะเลาะวิวาท สองฝ่าย คือชายที่สวมเสื้อยืดสีเขียว และชายที่สวมเสื้อกล้าม ขึ้นมาชกกันบนเวที รำวงและให้ทางนักดนตรีเล่นเพลงประกอบการชก
โดยจากคลิปจะเห็นว่า ชายเสื้อกล้ามนั้นตัวเล็ก กว่าชายสวมเสื้อยืดสีเขียว ซึ่งต่างฝ่ายต่างชกกันแต่ฝ่ายชายสวมเสื้อกล้ามเมา และตัวเล็กกว่าจึงถูกชายสวมเสื้อยืดสีเขียวทั้งแตะและต่อย จนล้มลง ห้ามกลางชายที่สวมเสื้อกั๊กฝ่ายปกครองเป็นผู้ค่อยเป็นกรรมการและค่อยห้ามก่อนจะมีผู้บอกว่าจะจบหรือไม่จบ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางคืนวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่ลานสนามด้านนอกวัดพระเจ้าเหลื้อม ตำบลหนองตอง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นงานกฐิน
ทางชาวบ้านหมู่บ้านดังกล่าว เล่าว่า วันเกิดเหตุนั้นเธอก็ได้มาร่วมงานซึ่งงานดังกล่าวจัดที่สนามด้านนอกมีกิจกรรมต่างๆมีรำวงมีการขายเหล้าเบียร์ตามปกติเพราะเป็นงานเมา ซึ่งจากคลิปที่เผยแพร่ออกไปนั้น ชายทั้งสองคนนั้นเมาสุรากำลังจะชกต่อย ซึ่งถ้าหากปล่อยไว้อาจมีการชุลมุนและมีการไปรบกวนผู้มาร่วมงานพ่อกำนันเห็นท่าไม่ดีจึงได้จับสองคนนั้นมาชกกัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้มีอะไรซับซ้อนในส่วนตัวเธอในฐานะชาวบ้านว่ามองว่าการที่กำนันจับทั้งสองคนมาต่อยกันให้จบๆเพราะจะได้ต้องการให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงต่อยกันแล้วจบๆแยกย้ายกันไปแต่ภาพที่เราเห็นและมีการแชร์ออกไปนั้นต่างคนต่างความคิดเราจึงไม่สามารถไปห้ามความคิดใครได้มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ขณะที่นายสมพงค์ อินเงิน กำนัน ต.หนองตอง บอกว่า การที่คลิปออกไป แต่ไม่มีใครรู้ความจริงถึงวันที่เกิดเหตุ มีเหตุการณ์อะไรมาก่อน ซึ่งวันดังกล่าวนั้นเป็น งานกฐินของวัดหนองเหลี้ยมนั้นได้มีการจัดรำวงโดยทางเจ้าภาพและมีการให้มีมหรสพเพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายในชุมชน ซึ่งการจัดงานก็จะมีกฎระเบียบในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของงานถ้าเกิดมีการทะเลาะวิวาทปรับต้องชดใช้ค่าเสียหาย
ซึ่งก็มีคู่กรณีสองคนเมามากจะมีเรื่องทะเลาะกันเกิดขึ้นก็จะต้องมีการยุติงานและจะต้องมีการเปรียบเทียบปรับค่าเสียหายให้กับทางผู้จัดงาน โดยทางเจ้าหน้าที่ดูแลงานได้มีการพยายามห้ามปรามแล้วชายทั้งสองคนก็ไม่ฟังตนประเมินสถานการณ์แล้วซึ่งถ้าเป็นแบบนี้แล้วเรื่องจะลุกลามบานปลายไปกันใหญ่ ดังนั้นจึงต้องหาวิธีการยุติงานเพื่อไม่ให้มีความเสียหายทั้งสองฝ่ายทั้งร้านค้าและผู้ที่มาร่วมงาน จึงได้ให้ชายสองคนมาชกต่อยกัน เพื่อให้จบลงที่นี้และให้ทางชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านเข้ามากันคนไว้ไม่ให้มายุ่งถือว่าเป็นการแสดงให้ทุกคนรู้ว่า ถ้าหากมีการทะเลาะวิวาทนั้นไม่ดีจะให้คนอื่นเดือดร้อนต้องไปแจ้งความต้องเสียค่าปรับ จึงตัดสินให้จบแค่ในงานนี้เท่านั้นก็เป็นคลิปที่ออกมา โดยไม่ให้มีการบาดเจ็บกันเยอะ ซึ่งก่อนที่จะนำชายสองคนมาชก ก็เราก็ได้ทำความเข้าใจกับทั้งสองแล้วว่าจะให้ชกกันตรงนี้ไม่มีใครบาดเจ็บหลังจากชกกันเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้านไม่มีใครติดใจ
กระทั่งมาเห็นคลิปที่มาลงโซเชียล แต่เราก็ยอมรับว่าคลิปที่ลงโซเชียลนั้นก็มีทั้งผลดีและผลไม่ดี แต่ตนก็ยอมรับเพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ต้องให้ใครเดือดร้อน ขอให้จบที่ตรงนี้เท่านั้น ให้ทุกคนยอมรับกติกา ไม่ได้คิดเป็นอื่นเลย โดยทางอำเภอต้นสังกัดอำเภอหางดงหลังเห็นคลิปก็ได้เรียกกำนันไปชี้แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
ขณะที่ทางกำนันได้เรียกชายคู่กรณีทั้งสองคนมาคุยกันแล้วทำความเข้าใจถึงคลิปที่เผยแพร่ออกไปโดยทั้งสองไม่ติดใจเอาความและจบกันด้วยดีแต่ไม่ทราบว่ามีการนำคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่หรือร้องสื่อ
ซึ่งหนึ่งในคู่กรณี ซึ่งเป็นขายสวมเสื้อกล้ามได้เดินทางมาหากำนันฯ ที่หน้าวัดฯ ด้วยสภาพตาซ้ายช้ำบวมเป่ง และโทรติดต่อกับคู่กรณีที่สวมเสื้อเขียวซึ่งไปทำงานอยู่ ต่อหน้ากำนัน และผู้สื่อข่าว ทั้งคู่ได้กล่าวขอโทษ กำนัน เจ้าหน้าที่ปกครอง ผู้จัดงาน ชาวบ้าน และขอโทษสังคมที่ทำให้เกิดเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงของชุมชนพร้อมกันยืนยันว่าทั้งคู่ได้เจรจาประบความเข้าใจกันแล้วและยังเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน ที่ก่อเหตุลงไปนั้นสาเหตุมาจากความเมาขาดสติอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ชายทั้งสองคนได้ขอโทษสังคม และขอโทษพ่อกำนันที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นและต่อไปจะไม่ก่อเหตุลักษณะนี้อีก








ร่วมแสดงความคิดเห็น