คดีพลทหารกิตติธร เสียชีวิตในค่าย คณะกรรมการฯ ชี้ขาด ให้ขึ้นศาลพลเรือน นัดฟังคำตัดสิน 18 ธ.ค.นี้

คดีพลทหารกิตติธร เสียชีวิตในค่ายทหาร คณะกรรมการฯ ชี้ขาด ให้ขึ้นศาลพลเรือน นัดฟังคำตัดสิน 18 ธ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีคดีของพลทหารกิตติธร เวียงบรรพต ที่เสียชีวิตในระหว่างการฝึกทหารเกณฑ์เมื่อช่วงปี 2566 โดยระบุว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 5 ได้อ่านคำสั่งคณะกรรมการชี้ขาดเขตอำนาจศาล โดยคณะกรรมการฯ เห็นว่าคดีพลทหารกิตติธร “อยู่ในเขตอำนาจศาลพลเรือน”

คณะกรรมการฯ มีความเห็นโดยสรุปคือ เห็นว่าจำเลยในคดี (ครูฝึกทั้ง 2 นาย) เป็น “เจ้าหน้าที่รัฐ” ตามนิยามในมาตรา 3 ถูกฟ้องในข้อหาการกรทะที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือ ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตามมาตรา 6 จึงต้องเข้ามาตรา 34 ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ที่บัญญัติให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบซึ่งเป็นศาลพลเรือนเป็นศาลที่มีเขตอำนาจเหนือความผิดไว้โดยเฉพาะ คดีนี้จึงอยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรม และมีกำหนดการนัดฟังคำพิพากษา 18 ธ.ค. 68 ที่จะถึงนี้

กรณีนี้เป็นผลมาจากการเสียชีวิตของพลทหารกิตติธร เวียงบรรพต ทหารเกณฑ์ผลัดที่ 1/66 ค่ายเม็งรายมหาราช จ.เชียงราย ซึ่งมีอาการป่วยหนัก แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จนกระทั่งภรรยาของพลทหารกิตติธร ยืนกรานขอให้ส่งตัวสามีไปรักษาที่โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช ในระหว่างวันที่ 14-15 ก.ค. 66 ทว่าสุดท้าย พลทหารกิตติธรได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 66 ด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด

และเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2566 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการ ได้สั่งฟ้องครูฝึก 2 นาย ยศร้อยโทและจ่าสิบโท เป็นผู้รับผิดชอบการฝึกพลทหารกิตติธร เวียงบรรพต คดีหมายเลขดำที่ ปท.1/2566 ในข้อหาร่วมกระทำการโหดร้ายฯ ตามข้อหาดังกล่าวข้างต้น โดยจำเลยทั้ง 2 ได้ยื่นคำให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ร่วมแสดงความคิดเห็น