หมออุ๋ย สส.แพร่ เขต 2 พท.จี้รัฐบาลในสภาให้พาณิชย์แก้ไขปัญหาราคาข้าวเหนียว

หมออุ๋ย สส.แพร่ เขต 2 พท.จี้รัฐบาลในสภาให้พาณิชย์แก้ไขปัญหาราคาข้าวเหนียวตกต่ำ ให้ชาว อ.ร้องกวาง

เมื้อวันทึ่22 ตุลาคม 268เวล่10.30 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฏร หมออุ๋ย นพ.นิยม วิวรรธรธนดิฐกุล สส.แพร่ เขต 2 พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายการทอในที่ประชุมในเรื่องของราคาข้าวเปลือกเหนียวที่ตกต่ำมากทำให้เกษตรกรเดือดร้อน

นพ.นิยม อภิปรายว่า ปกติประเทศไทยเราก็จะมีพื้นที่ปลูกประมาณ 14 ล้านไร่ปลูกในภาคเหนือตอนบน 2.6 ล้านไร่ภาคอีสานประมาณ 11.6 ล้านไร่ส่วนภาคอื่นๆก็มีปริมาณน้อยผลผลิตรวมปีหนึ่งนี่ก็จะประมาณ 6.7 ล้านตันของข้าวเปลือกมีผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 4,480 บาทกิโลกรัมต่อไร่ส่วนใหญ่ก็ใช้บริโภคในประเทศแล้วก็แปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆอย่างเช่นสุราขาวชุมชนที่มีปริมาณการขายมากถึง 3,000 ล้านบาทต่อปี

ส่วนน้อยของข้าวเหนียวก็จะถูกส่งออกไปต่างประเทศระยะนี้ก็เป็นส่วนของข้าวเหนียวนาปีที่จะออกก็คือปี 68 ซึ่งมีผลผลิตออกสู่ตลาดค่อนข้างจะเยอะแต่ข้าวเปลือกเหนียววันนี้ราคาตกต่ำอย่างมากราคาไม่ถึงกิโลกรัมละ 7 บาท

ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ประมาณ 6 บาทจนถึง 6.90 บาทเท่านั้นซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่เป็นเกษตรกรอย่างมาก

จากในภาพท่านก็จะเห็นว่าพี่น้องเกษตรกรจังหวัดแพร่ของอำเภอร้องกวางได้รวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดแพร่เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 และยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เพราะว่าเกษตรกรเดือดร้อนและขาดทุนก็คงจะต้องขอส่งหนังสือถึงท่านประธานสภาเพื่อประสานงานต่อไปอย่างกระทรวงพาณิชย์ให้เร่งมาตรการในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกเหนียวที่ตกต่ำอย่างมากซึ่งจะยื่นหนังสือให้กับท่านไชยาพรหมาที่ชั้น 1 ก็ขอเชิญทางสส.ลูกข้าวเหนียวไปร่วมกันยื่นหนังสือหลังจากการหารือจบกราบขอบพระคุณท่านประธานสภาครับผม

ในวันเดียวกันนี้ เวลา11.00น.ที่ิรัฐสภา หมออุ๋ย นพ.นิยม วิวรรธนดิฐกุล สส.แพร่เขต 2พรรคเพื่อไทยและคณะ ได้แถลงข่าว เรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียวและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พร้อมกับยื่นหนังสือให้กับนายไชยา พรหมารองประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อประสานไปยังกระทรวงพาณิชย์ เรื่องที่ข้าวเปลือกข้าวเหนียวราคาตกต่ำมากและราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำ ทำให้เกษตรกรภาคเหนือและภาคอีสานเดือดร้อนจากการขาดทุน

นพ.นิยมและคณะจึงได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งในการหามาตรการพยุงราคาข้าวเปลือกข้าวเหนียวโดยด่วน ซึ่งช่วงนี้ผลผลิตข้าวเหนียวและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กำลังออกสู่ท้องตลาด และควรหามาตรการอื่นๆในการจะช่วยเหลือ เยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียวและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

ร่วมแสดงความคิดเห็น