75747

(มีคลิป) ดีเอสไอ-ปปท.ลุยตรวจสอบ คดีปลอมลายเซ็นปลัดอำเภอฯ

ดีเอสไอ – ปปท. นำทีมเจ้าหน้าที่ ตรวจข้อมูล ขยายผลคดีทุจริตปลอมลายเซ็นต์ปลัดอำเภอออกบัตรประชาชนปลอม ช่วงเช้าวันนี้ (28 ต.ค.65) เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปรามปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.เขต 5 เดินทางไปที่ว่าการอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เชิญ นายเลอยศ พุทธชิโนรสสกุล นายอำเภอสารภี รวมทั้งปลัดอำเภอและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อขยายผลถึงขบวนการเครือข่าย และบุคคลที่เกี่ยวข้องในขบวนการทุจริตที่เกิดขึ้น พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ที่ปรึกษากรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ดีเอสไอ และ ป.ป.ท. ร่วมกันสอบสวนในคดีนี้ โดยขณะนี้ตรวจพบการมีเพิ่มชื่อในทะเบียนของอำเภอสารภี ที่เข้าข่ายมิชอบในช่วงปี 2565 จำนวน 59 ราย และอาจจะพบมากกว่านี้ และพบว่ามีปลัดของอำเภอสารภี ทำปลอมแล้วทั้งหมด 4 ราย จากคำกล่าวอ้างของลูกจ้างคนดังกล่าว ได้ให้การในลักษณะตัดตอนว่าทำเพียงคนเดียวในการปลอมลายมือชื่อของปลัดอำเภอ และนำลายเซ็นของปลัดอำเภอ ที่เซ็นในเอกสารไว้ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่การนำรายการข้อมูลและหลักฐานของบุคคล ที่ไม่มีความเคลื่อนไหวทางทะเบียน เช่น ผู้เสียชีวิต ผู้พิการ มาใช้ทำให้เชื่อว่าจะต้องมีบุคคลอื่นๆ เกี่ยวข้องร่วมขบวนการด้วย […]

“ปลัดจอมแฉ” ชำแหละกรณีสวมตัวทำบัตรประชาชนที่สารภี

ความคืบหน้ากรณีตรวจสอบพบการสวมตัวทำบัตรประจำตัวประชาชนกว่า 50 ราย ที่อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ที่เป็นลูกจ้าง สย.ช่วยงานด้านทะเบียนของอำเภอได้ลักลอบดำเนินการด้วยการใช้รหัสการเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลในการทำบัตรประชาชนของปลัดอำเภอที่เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย พร้อมทั้งปลอมลายมือชื่อของปลัดอำเภอในการทำบัตรประชาชนให้กับผู้ที่สวมตัวทำบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งต่อมาทางอำเภอตรวจสอบพบความผิดปกติและสอบสวนลูกจ้างคนดังกล่าว จนให้การรับสารภาพและมีการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ขณะเดียวกันทำการยกเลิกบัตรประจำตัวประชาชนดังกล่าวทั้งหมด เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2565 นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หรือ”ปลัดจอมแฉ” ปลัดอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นได้รับแจ้งข้อมูลเบาะแสเพิ่มเติมที่เชื่อถือได้ว่าการก่อเหตุนี้มีการร่วมมือกันทำเป็นขบวนการและเป็นเครือข่ายใหญ่ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเครือข่ายที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอนและจังหวัดเชียงราย โดยในการสวมตัวทำบัตรประจำตัวประชาชนให้ดังกล่าวนั้น ตามข้อมูลพบว่ามีการเรียกเก็บเงินค่อนข้างสูงเป็นจำนวนหลายแสนบาทไปจนถึงหลักล้านบาทต่อราย และมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกลุ่มหรือเครือข่ายที่ทำผิดกฎหมายอื่นๆ เช่น ยาเสพติด หรือฟอกเงิน เป็นต้น สำหรับวิธีการนั้น ทางเครือข่ายที่ร่วมขบวนการจะทำการรวบรวมรายชื่อของคนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดารห่างไกลหรือตามแนวชายแดน ที่การเดินทางเข้าถึงยากลำบาก ซึ่งคนดังกล่าวมีสูติบัตรแจ้งเกิด แต่เสียชีวิตไปแล้วโดยที่ไม่มีการแจ้งตายและไม่ได้จำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนบ้าน รวมทั้งยังไม่เคยทำบัตรประจำตัวประชาชนมาก่อน จากนั้นนำผู้ที่ต้องการจะสวมตัวทำบัตรประจำตัวประชาชน มาแสดงตัวพร้อมยื่นคำร้องและสวมตัวเป็นคนที่มีชื่อในทะเบียนบ้านดังกล่าว เพื่อขอทำบัตรประจำตัวประชาชน ทั้งนี้จะมีการพาเจ้าบ้าน,พ่อแม่ญาติพี่น้องของคนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านนั้น รวมทั้งผู้ใหญ่บ้าน,ผู้นำชุมชนหรือบุคคลที่น่าเชื่อถือ มายืนยันรับรองให้กับเจ้าหน้าที่ด้วยว่าคนที่ขอทำบัตรนั้นเป็นคนเดียวกันคนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน โดยในการยื่นขอทำบัตรนั้น มักจะเป็นการยื่นขอทำบัตรครั้งแรกเกินกำหนดและนอกพื้นที่ด้วย เพราะระบบมีช่องโหว่อยู่ตรงที่เป็นการทำบัตรครั้งแรกทำให้ในระบบฐานข้อมูลจะยังไม่มีภาพถ่ายใบหน้าและพิมพ์ลายนิ้วมือไว้ใช้เปรียบเทียบ รวมทั้งยากต่อการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เพราะเป็นการทำบัตรนอกพื้นที่ที่กฎหมายให้สิทธิ์ประชาชนไว้ ทำให้เมื่อมีการยื่นหลักฐานครบถ้วนและมีผู้รับรองครบถ้วนทุกอย่าง จึงไม่สามารถปฏิเสธคำร้องได้ โดยตั้งข้อสังเกตว่า เครือข่ายการสวมตัวทำบัตรประจำตัวประชาชนดังกล่าวนี้ น่าจะต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องร่วมด้วยอย่างแน่นอน เพราะคนทั่วไปย่อมไม่สามารถทราบข้อมูลว่าได้ว่าคนใดมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน เสียชีวิตไปแล้วหรือหายสาบสูญ โดยที่ไม่เคยแจ้งตายและยังไม่เคยทำบัตรประจำตัวประชาชนมาก่อน ซึ่งเครือข่ายการสวมบัตรประจำตัวประชาชนคนไทยนั้น […]

(มีคลิป) คืบหน้า ลูกจ้างอำเภอปลอมลายเซ็นต์ ผู้ว่าฯ สั่งเร่งสอบสวน

คืบหน้า ลูกจ้างอำเภอปลอมลายเซ็นต์ปลัด ออกบัตรประชาชนกว่า 50 ราย ผู้ว่าฯ เชียงใหม่สั่งเร่งสอบสวน สหพันธ์ปลัดอำเภอเผย ใช้สูจิบัตรคนตายพื้นที่ห่างไกลมาสวมสิทธิ์ เตรียมทำหนังสือขอนายกฯ สั่งกวาดล้าง ห่วงเป็นภัยต่อความมั่นคง ความคืบหน้ากรณีการทุจริต ในการออกบัตรประชาชนที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยฝ่ายปกครองตรวจสอบพบว่า มีเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นลูกจ้างฝ่ายทะเบียนในที่ว่าการอำเภอสารภี ลักลอบนำข้อมูลเข้าระบบและปลอมลายเซ็นต์ปลัดอำเภอ ออกบัตรประชาชนโดยมิชอบ เบื้องต้นทำไปแล้วกว่า 50 ราย ก่อนที่ภายหลังทางอำเภอตรวจสอบพบความผิดปกติและสอบสวนลูกจ้างคนดังกล่าวจนรับสารภาพ จึงได้แจ้งความดำเนินคดีพร้อมกับสั่งยกเลิกบัตรประจำตัวประชาชนที่ออกโดยทุจริตทั้งหมดแล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า รับทราบเรื่องและอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงและตรวจสอบว่ามีใครเกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการเอาผิดทั้งหมด ยืนยันหากพบข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดนี้ จะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาดไม่มีข้อยกเว้น ทั้งคดีอาญาและความผิดทางวินัย นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ให้ความเห็นในฐานะประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย ว่า การทุจริตออกบัตรประชาชนรูปแบบนี้ เป็นการทำบัตรครั้งแรกเกินกำหนดและนอกเขต ซึ่งในระบบฐานข้อมูลจะยังไม่มีภาพถ่าย และลายนิ้วมือเพื่อใช้เปรียบเทียบ โดยใช้สูติบัตรคนตายที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลมาเป็นหลักฐาน พร้อมกับมีบุคคลมารับรองยืนยันตัวตนให้ ถือเป็นภัยต่อความมั่นคง หากนำไปใช้กระทำผิดกฏหมาย ทั้งเรื่องยาเสพติดและฟอกเงิน โดยเชื่อว่าจะต้องมีการติดต่อทำกันเป็นขบวนการ ทั้งกลุ่มที่จัดหารับเป็นนายหน้าและกลุ่มคนในอำเภอ จึงสนับสนุนให้ตรวจสอบขยายผล เพื่อดำเนินการกับเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด นายบุญญฤทธิ์ บอกอีกว่า ในแต่ละวันมีประชาชนมาทำบัตรประชาชน […]