(มีคลิป) หนุ่มวอนช่วย เมียหอบลูกหนี หลังตนต้องคดี

YouTube video

หนุ่มเชียงราย ร้องขอความเป็นธรรม หลังเป็นแพะติดคุกนาน 6 ปี คดีข่มขืนกระทำชำเรา เมียรับไม่ได้หอบลูกหนีกลับบ้านเกิด ไม่ยอมติดต่อด้วย

วันที่ 22 มิ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ได้มีนายพิชญุตม์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ชาวบ้าน ต.ไม้ยา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย หอบหลักฐานมาปรึกษากับนายบันดิษฐ์ ปุระตา หรือทนายเบิ้ม หลังถูกศาลตัดสินจำคุกนาน 20 ปี แต่ติดจริง 6 ปี 1 เดือน ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา และเพิ่งได้รับอภัยโทษออกมาเมื่อปี 64 แต่ต่อมาฝ่ายผู้กล่าวหาได้ให้ข้อมูลกับศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงราย ว่านายพิชญุตม์ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด จึงอยากมาร้องขอความเป็นธรรม เพราะหลังจากต้องติดคุก เมียก็พาลูกเก็บข้าวของกลับไปอยู่ที่บ้านเดิมที่ อ.ดอยหลวง ไม่สามารถติดต่อได้

หลังจากได้รับการติดต่อ ทนายเบิ้มได้พาผู้ร้องทุกข์ไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดเทิง เพื่อขอคำแนะนำ โดยมี ร.ต.อ.ยงยุทธ ไชยชมภู อัยการจังหวัดเทิง และนายกฤษฎา แก้วเมืองมูล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด รับผิดชอบงานช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สาขาเทิง) มาให้คำแนะนำช่วยเหลือแก่ผู้ร้อง โดยทางอัยการแนะนำให้ไปแจ้งความในเรื่องการเบิกความเท็จที่ สภ.เทิง เพื่อจะนำไปยื่นขอให้ให้ศาลรื้อฟื้นคดี

นายพิชญุตม์ เผยว่า ตนถูกจำคุกในคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ตนยืนยันความบริสุทธิ์ตั้งแต่ที่บ้านผู้ใหญ่บ้านไปจนถึงชั้นศาลอุทธรณ์ ว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด ไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับผู้ถูกกล่าวหามาก่อน แต่สุดท้ายก็ถูกศาลตัดสินจำคุก 20 ปี แต่ติดจริงแค่ 6 ปี 1 เดือน ได้รับอภัยโทษออกจากคุกเมื่อปี 64 ตอนนี้อยากให้ลูกเมียกลับมาอยู่ด้วยกัน อยากจะอธิบายกับลูกว่าพ่อไม่ได้ทำผิด

นางใบ (สงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี มารดาของนายพิชญุตม์ กล่าวว่า หลังจากลูกชายติดคุก ตนก็ไม่สบายใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ คิดถึงลูกชาย ตอนแรกก็ติดว่าลูกอาจผิดจริง แต่พอรู้ข่าวจากญาติที่ไปได้ยินมาอีกที ว่าผู้กล่าวหายอมรับว่าลูกชายตนไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ แต่เป็นพ่อเลี้ยงที่ลงมือข่มขืนและข่มขู่หญิงคนดังกล่าว เมื่อรู้ดังนั้นตนก็พยายามดิ้นรนทุกช่องทางเพื่อช่วยเหลือลูกชาย เมื่อปี 62 ตอนนั้นขายลำไยได้เงินมา 2 หมื่นกว่าบาท ก็นำมาเป็นทุนค่าจ้างคนขับรถพาไปส่งตามที่ต่างๆ รวมถึงพาผู้กล่าวหาไปให้ข้อมูลกับศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงราย เพื่อยืนยันว่าลูกชายไม่ได้ก่อเหตุจริง ตอนนี้ตนอยากให้ลูกสะไภ้และหลานๆกลับมาอยู่พร้อมหน้ากัน

ด้านนายบันดิษฐ์ ปุระตา ทนายอาสาที่รับทำคดีนี้ เผยว่า ทางผู้กล่าวหาได้ไปให้ข้อมูลกับหน่วยงานรัฐว่าผู้ร้องไม่ได้ทำความผิด ผู้ก่อเหตุคือพ่อเลี้ยง แต่ตอนนั้นผู้กล่าวหาถูกข่มขู่ทำร้ายจึงให้การว่าจำเลยเป็นผู้ก่อเหตุ เราจึงคิดว่าจะสามารถนำหลักฐานตรงนี้ไปยื่นขอให้ศาลรื้อฟื้นคดี เพราะตอนนี้ผู้ร้องทุกข์อยากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เพราะภรรยาเขาเข้าใจว่าเขาเป็นผู้ก่อเหตุจริง ก็เลยพาลูกกลับไปอยู่ที่บ้านเกิด หลังจากนี้ตนคงจะไปช่วยพูดกับฝ่ายภรรยาว่ามีหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่าฝ่ายสามีไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุข่มขืนอย่างที่ถูกกล่าวหา ในส่วนของการดำเนินคดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนัดให้ข้อมูลในวันที่ 1 ก.ค. ที่จะถึงนี้ ตนจะไปรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากได้หลักฐานครบก็จะไปยื่นขอศาลรื้อฟื้นคดี หากศาลพิจารณาว่าเป็นการเบิกความเท็จจริงก็จะได้นำไปสู่กระบวนการเรียกร้องค่าชดเชยให้กับผู้ร้องที่ต้องติดคุกจากคดีดังกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น