“ว่าว”แยกประเภทมีอยู่ 3-4 ชนิดคือ
“ว่าวฮม”ทำด้วยกระดาษบางที่มีน้ำหนักเบา ด้านล่างจะมีไม้ไผ่ขัดเป็นวงกลม เพื่ออัดควันจากกระบอกไม้ไผ่ ขึ้นสํ่อากาศด้วยแรงควัน มีการปล่อยในช่วงอากาศโปร่ง มีแสงแดดในช่วงกลางวันแดดร้อนๆ
“ว่าวไฟ หรือโคมลอย”วิธีทำก็คล้ายกับว่าวฮมปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยแรงดันจากควันไฟ เป็นเชื้อเพลิงที่ผูกติดกับปล่องด้านล่างพยุงขึ้นสู่ท้องฟ้า ว่าวไฟ หรือ โคมลอย นี้อันตรายมากหากเกิดไปตกที่ไหน เช่น ทุ่งหญ้า หลังคาบ้าน ขณะที่ยังมีไฟติดอยู่ก็จะเกิดไฟไหม้บริเวณนั้นได้
“ว่าวไฟ หรือ โคมลอย” อีกชนิดหนึ่ง แต่มีขนาดเล็กกว่าใช้ปล่อยเคราะห์ใช้ควันจากไฟที่ผูกติดกับปล่องด้านล่างเช่นกัน นิยมปล่อยกันในพิธีกรรมกรรมต่างๆ ปล่อยแต่ละครั้งเป็นจำนวนมาก ชึ่งมีอันตรายเช่นกัน
“ว่าวลม”คือใช้ลมเป็นแรงขับเคลื่อนให้พยุงตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า ส่วนใหญ่มีลักษณะแบนเพื่อโต้ลม มีเชือกผูกไว้กระตุก หรือชักว่าว นั้นเองอีกทั้งเพื่อไม่ให้หลุดลอยไป นิยมเล่นกันในหน้าร้อนที่มีลมพัดตลอดทั้งสัน
และอีกชนิดหนึ่งเป็นว่าวขนาดใหญ่ หรือเรียกว่า ”บอลลูน” ก็ได้ โครงสร้างทำด้วยไม้ไผ่หุ้มโครงสร้างกระดาษ หรือ ผ้าแพร ขับเคลื่อนด้วยพลังควัน ไปได้ไกลกว่า 400 กิโลเมตร เป็นที่นิยมของชาวเมียนมาในรัฐฉาน ปล่อยในเทศกาลตาซองไดนช์ในคืนพระจันทร์เดือนเพ็ญ ถวายเป็นพุทธบูชา มีการเฉลิมฉลอง 8 วัน 8 คืน




บอบคุณ/กำจร สายวงค์อินทร์
ร่วมแสดงความคิดเห็น