ถนนช้างม่อยในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในย่านที่มีความสำคัญทั้งด้านประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจของเชียงใหม่มายาวนาน ย่านนี้เริ่มต้นจากชุมชนเล็ก ๆ ที่เงียบสงบอยู่นอกคูเมือง โดยมีจุดเริ่มต้นจาก “ประตูช้างม่อย” ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง ถนนสายนี้ในอดีตคือถนนช้างม่อยเก่า เป็นเส้นทางดั้งเดิมที่ผ่านวัดหนองหล่มและหมู่บ้านเชียงเรือก ก่อนจะค่อย ๆ พัฒนาไปสู่ความเป็นชุมชนการค้าอันคึกคัก

ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีการสร้าง “กาดหลวง” หรือ “กาดวโรรส” บริเวณข่วงเมรุในอดีต ที่ซึ่งเคยเป็นพื้นที่สำหรับประกอบพิธีกรรมของเมืองเชียงใหม่ พระราชชายา เจ้าดารารัศมี ทรงมีบทบาทสำคัญในการย้ายพระอัฐิของเจ้าหลวงเชียงใหม่และเชื้อพระวงศ์ไปยังวัดสวนดอก จากนั้น เจ้าอินทวโรรสได้ใช้ทุนทรัพย์ในการพัฒนาให้บริเวณข่วงเมรุเป็นตลาดการค้าที่เจริญรุ่งเรือง เส้นทางใหม่ที่ถูกตัดผ่านพื้นที่นี้คือถนนช้างม่อย ซึ่งเชื่อมโยงกับย่านท่าแพและกาดหลวง กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ถนนช้างม่อยเติบโตเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญ อาคารร้านค้าต่าง ๆ ผุดขึ้นตามเส้นทางสัญจรที่มุ่งตรงเข้าสู่ศูนย์กลางตลาด

ในยุคที่ถนนช้างม่อยรุ่งเรืองที่สุด ย่านนี้เต็มไปด้วยความคึกคัก อาคารหลากหลายรูปแบบทั้งเรือนไม้ เรือนแถว อาคารสไตล์ยุโรป และโรงแรม รวมถึงแหล่งบันเทิงต่าง ๆ ก็เรียงรายตามแนวถนน เช่น โรงภาพยนตร์ศรีนครพิงค์ที่ตั้งอยู่บริเวณถนนช้างม่อยเชื่อมต่อกับถนนราชวงศ์ ย่านนี้ยังเป็นจุดรวมตัวของผู้คนในช่วงเทศกาลหรือกิจกรรมสำคัญ ภาพที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของหลายคนคือ ขบวนแห่นางงามในงานฤดูหนาวของเชียงใหม่ ที่นำโดยรถเวสป้านับร้อยคัน มีประชาชนมารอชมขบวนเรียงรายตลอดสองฝั่งถนน
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนผ่าน แต่เสน่ห์ของถนนช้างม่อยยังคงอยู่ ย่านนี้ในปัจจุบันยังคงรักษาเอกลักษณ์ของตนเองผ่านอาคารดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี บรรยากาศของถนนช้างม่อยในวันนี้เต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายประเภท ทั้งร้านกาแฟ ร้านของที่ระลึก ร้านงานฝีมือ และสินค้าโฮมเมด ซึ่งสะท้อนความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ ร้านเครื่องจักสานที่ยังคงเปิดกิจการอยู่ในย่านนี้ ได้กลายเป็นมุมถ่ายภาพยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
ถนนช้างม่อยจึงเป็นมากกว่าเพียงเส้นทางสัญจร แต่เป็นพื้นที่ที่บอกเล่าเรื่องราวความรุ่งเรืองในอดีต และแสดงถึงพัฒนาการที่เปลี่ยนผ่านจากรุ่นสู่รุ่น ผสมผสานความคลาสสิกกับความร่วมสมัยได้อย่างงดงาม เป็นย่านที่ยังคงสะท้อนมนต์เสน่ห์ของเชียงใหม่และรอให้ทุกคนได้สัมผัส
ที่มา : กรมศิลปากร
ร่วมแสดงความคิดเห็น