สะพานนวรัฐ สะพานข้ามแม่น้ำปิงแห่งที่ 2 ของเมืองเชียงใหม่ มีประวัติยาวนานและน่าสนใจ สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ โดยเป็นสะพานไม้สักทั้งหลัง มีลักษณะเป็นสะพานแบบคานยื่น โครงด้านบนโค้งครึ่งวงกลมจำนวน 5 ช่วง สร้างบน 6 ตอม่อ สะพานเชื่อมระหว่างถนนเจริญเมืองทางฝั่งตะวันออกกับย่านท่าแพทางฝั่งตะวันตก ซึ่งถนนท่าแพถือเป็นถนนเศรษฐกิจสำคัญในยุคนั้น

อย่างไรก็ตามสะพานไม้สักนี้ต้องเผชิญปัญหาไฟไหม้และความเสียหายจากน้ำหลากที่พัดเอาท่อนไม้ซุงมากระแทกจนพังบางส่วน เมื่อเวลาผ่านไปสะพานเริ่มไม่เหมาะสมกับการใช้งานในยุคที่การขนส่งเริ่มเปลี่ยนไปตามการพัฒนาของเมือง จากขัวไม้สักเป็น “ขัวเหล็ก” หลังจากการสร้างเส้นทางรถไฟมาถึงเชียงใหม่ ทางราชการจึงรื้อสะพานไม้สักในปี พ.ศ. 2464 และสร้างสะพานใหม่ที่แข็งแรงกว่าเดิม โดยใช้โครงสร้างเหล็กบนตอม่อคอนกรีตเสริมเหล็ก สะพานใหม่มีลักษณะโครงเหล็กทั้งหมด 5 ช่วง เปิดใช้งานในปี พ.ศ. 2466 พร้อมตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า “สะพานนวรัฐ” เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ในเวลานั้น
ชาวบ้านยังคงเรียกสะพานนี้ว่า “ขัวเหล็ก” หรือ “ขัวดำ” ตามลักษณะของโครงสร้างเหล็กสีดำ ซึ่งกลายเป็นสะพานสำคัญที่ใช้เชื่อมสองฝั่งของแม่น้ำปิง สะพานนวรัฐในยุคปัจจุบัน เมื่อเชียงใหม่เจริญขึ้น การจราจรเริ่มคับคั่ง สะพานนวรัฐแบบโครงเหล็กเริ่มไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ทางราชการจึงตัดสินใจรื้อสะพานเหล็กออกในปี พ.ศ. 2508 และสร้างสะพานใหม่แทน โดยสะพานนวรัฐแห่งใหม่นี้เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก มีขนาดใหญ่ขึ้นและกว้างขวางกว่าเดิม

สะพานนวรัฐแบบปัจจุบันเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2510 โดยมีจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเดินทางมาทำพิธีเปิดสะพานพร้อมกับสะพานเม็งรายอนุสรณ์ สะพานนวรัฐในวันนี้ยังคงเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ และสะท้อนถึงการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงของเมืองที่เคียงคู่กับวิถีชีวิตชาวเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน
ที่มา : กรมศิลปากร https://www.finearts.go.th/chiangmaiarchives/view/34611-%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90
ภาพล้านนาในอดีต https://lannainfo.library.cmu.ac.th/picturelanna/detail_picturelanna.php?picture_id=1625
ภาพ : หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เชียงใหม่ ภาพส่วนบุคคล ชุด นายบุญเสริม สาตราภัย
ร่วมแสดงความคิดเห็น