ในยุคสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) พระองค์ทรงมีพระบรมราโชบายสำคัญในการขยายการศึกษาให้กับพสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะการเรียนรู้วิชาหนังสือไทยเพื่อพัฒนาความสามารถในการอ่าน เขียน และคิดเลข ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำรงชีวิต นอกจากนี้ยังเป็นการยกระดับความรู้และความสามารถของประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร
ในปี พ.ศ. 2432 พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าโสณบัณฑิตย์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งข้าหลวงพิเศษ ได้รับพระบรมราชโองการให้ขึ้นมาจัดการป้องกันพระราชอาณาเขตทางชายแดนของเมืองเชียงใหม่ พร้อมกับการริเริ่มการจัดตั้งโรงเรียนหลวงแห่งแรกในเมืองเชียงใหม่ โดยใช้สถานที่ที่เป็นศาลากลางสวนริมแม่น้ำปิงฝั่งตะวันตก ซึ่งในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2432 โรงเรียนแห่งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นภายใต้ชื่อ “โรงเรียนเมืองนครเชียงใหม่” เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีโอกาสศึกษาวิชาหนังสือไทย

การริเริ่มก่อตั้งโรงเรียนแห่งนี้เป็นการสนองพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการขยายการศึกษาให้ครอบคลุมทั่วทั้งราชอาณาจักร โดยต่อมาในปี พ.ศ. 2441 พระองค์ได้ออก “ประกาศจัดการเล่าเรียนในหัวเมือง” เพื่อขยายการศึกษาหนังสือไทยให้แก่หัวเมืองต่างๆ พร้อมกันกับการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในการบริหารราชการ เมื่อปี พ.ศ. 2442 โรงเรียนหลวงแห่งนี้ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนวัดพระเจดีย์หลวง” ก่อนที่จะได้รับการปรับเปลี่ยนเป็นชื่อ “โรงเรียนพระเจดีย์หลวงนครเชียงใหม่” และในปี พ.ศ. 2449 ได้มีการเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น “โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย” ตามพระราชทานนามของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฏราชกุมาร เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินประพาสหัวเมืองมณฑลพายั

โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยถือเป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งแรกในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการศึกษาภายในพื้นที่ภาคเหนือ และเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นของการศึกษาทางการในล้านนามาจนถึงปัจจุบัน โรงเรียนแห่งนี้ยังคงเป็นแหล่งผลิตบุคลากรสำคัญให้กับสังคมไทย และยังคงมีบทบาทในวงการการศึกษาของจังหวัดเชียงใหม่และภูมิภาคภาคเหนือ
การตั้งโรงเรียนหลวงแห่งแรกนี้ไม่เพียงแค่เป็นการเริ่มต้นการศึกษาในเชียงใหม่ แต่ยังสะท้อนถึงพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ต้องการให้การศึกษาเป็นสิทธิของทุกคนและสามารถเข้าถึงได้ในทุกพื้นที่ เพื่อยกระดับความรู้และคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกภูมิภาคของประเทศ
ที่มา : ศูนย์ข้อมูลข่าวสารกรมศิลปากร https://finearts.go.th/infofa/categorie/about
รูปภาพ : ศูนย์ข้อมูลข่าวสารกรมศิลปากร https://finearts.go.th/infofa/categorie/about
ร่วมแสดงความคิดเห็น