พิธีโล้ชิงช้า หรือ “ประเพณีโล้ชิงช้า” ของชนเผ่าอาข่าเป็นเทศกาลสำคัญที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม ความเชื่อ และสายใยศรัทธาที่เชื่อมโยงมนุษย์ ธรรมชาติ และบรรพบุรุษของชาวอาข่า โดยจะจัดขึ้นทุกปีในช่วงเดือนสิงหาคมหรือเดือนสิบตามปฏิทินของเผ่า
ความสำคัญและต้นกำเนิดประเพณี
พิธีโล้ชิงช้ามีรากฐานจากตำนานเทพเจ้าอึมซาแยะ ผู้ซึ่งชาวอาข่านับถือเป็นบรรพบุรุษ เทพอึมซาแยะได้รับพรจากเทพอเพรอมิแย ซึ่งสร้างโลกและธรรมชาติ เทพอึมซาแยะจึงมีอำนาจบันดาลให้เกิดความอุดมสมบูรณ์แก่พืชผลและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอาข่า การจัดพิธีโล้ชิงช้าถือเป็นการบูชาอึมซาแยะ รวมถึงเซ่นไหว้บรรพบุรุษเพื่อขอพรให้ชุมชนปลอดภัยและพืชผลเติบโตงอกงาม
พิธีนี้ยังสะท้อนถึงการเคารพธรรมชาติและการสร้างสายใยในชุมชน โดยชาวอาข่าทุกคนจะหยุดการทำงานในไร่ และรวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองประเพณีสำคัญนี้
ลำดับพิธีกรรม
วันแรกของพิธีเริ่มต้นด้วยการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ผู้หญิงในหมู่บ้านจะไปตักน้ำบริสุทธิ์จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ นำมาแช่ข้าวสารเหนียวเพื่อทำ “ข้าวปุก” อาหารเซ่นไหว้ที่ทำจากข้าวเหนียวผสมงาดำและเกลือ
ในวันถัดมา ฝ่ายชายจะออกไปตัดไม้สำหรับสร้างชิงช้าใหญ่ของหมู่บ้าน โดยหน้าบ้านแต่ละหลังจะมีการสร้างชิงช้าเล็ก ๆ สำหรับเด็ก ส่วนช่วงเย็นจะมีการเต้นรำ “ตุ๊บองฉ่อง” หรือการเต้นกระทุ้งกระบอกไม้ไผ่
วันแห่งการโล้ชิงช้าใหญ่คือเวลาที่ทุกคนมารวมตัวกัน เด็ก ๆ สนุกสนานกับชิงช้าเล็ก ส่วนหนุ่มสาวใช้ลานโล้ชิงช้าเพื่อแสดงความสามารถและเกี้ยวพาราสี
พิธีสิ้นสุดด้วยการปิดเทศกาล หมอผีประจำหมู่บ้านจะทำพิธีเก็บสายชิงช้าใหญ่สำหรับปีถัดไป และมีข้อห้ามมิให้ใช้ชิงช้านั้นจนกว่าจะถึงเทศกาลในปีหน้า
รูปแบบของชิงช้าอาข่า
มีชิงช้า 3 รูปแบบ ได้แก่ ชิงช้าแบบกระโจมสี่เสา ชิงช้าแบบระหัดวิดน้ำ และชิงช้าสำหรับเด็ก
ชิงช้าแบบกระโจมสี่เสา ทำจากไม้สี่ต้น ปักอยู่บนลานดิน ปลายยอดไม้ถูกมัดเข้าด้วยกันและมีเชือกเถาวัลย์ห้อยลงมา
ชิงช้าแบบระหัดวิดน้ำ ใช้เสาสองต้นรองรับแกนกลาง มีแขนยื่นออกทั้งสี่ด้าน คล้ายชิงช้าสวรรค์ แขนแต่ละด้านมีเชือกผูกห้อยสำหรับโล้
ชิงช้าสำหรับเด็กมีขนาดเล็กกว่า สร้างไว้หน้าบ้านทุกหลัง เชือกสำหรับโล้ทำจากสองเส้น ปลายเชือกมีไม้ไผ่พาด
ความสำคัญทางวัฒนธรรม
พิธีโล้ชิงช้าไม่ใช่เพียงเทศกาลรื่นเริง แต่เป็นมรดกสำคัญที่สะท้อนถึงศรัทธาและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชุมชน แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป แต่พิธีกรรมนี้ยังคงเป็นเครื่องยืนยันถึงเอกลักษณ์ของชาวอาข่า และแสดงถึงความเคารพในมรดกที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน
ร่วมแสดงความคิดเห็น