ประเพณีแข่งเรือเมืองน่าน เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่สืบทอดมายาวนาน มีจุดเริ่มต้นผูกพันกับงานบุญประเพณี “ตานก๋วยสลาก” หรือการถวายทานสลากภัตในชุมชนโบราณของชาวน่าน แต่ละหมู่บ้านและวัดจะเชิญชวนกันนำเรือมาแข่งขันเพื่อความสนุกสนานและเสริมสร้างความสามัคคี งานบุญกับการแข่งเรือจึงเป็นสิ่งคู่กัน โดยราชการได้กำหนดให้การแข่งเรือที่วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหารเป็นการเปิดสนามแข่งเรือประจำปีในช่วงปลายเดือนกันยายน และจัดการแข่งขันต่อเนื่องจนถึงช่วงปลายเดือนตุลาคมหรือต้นเดือนพฤศจิกายน
เอกลักษณ์เรือแข่งเมืองน่าน
เรือแข่งเมืองน่านแตกต่างจากเรือแข่งทั่วไปในประเทศไทย ด้วยการแกะสลักหัวเรือเป็นรูปพญานาคอันงดงาม หัวเรือแสดงความสง่าและศรัทธาต่อพญานาค ผู้เป็นเจ้าแห่งสายน้ำตามความเชื่อดั้งเดิมของชาวล้านนา การสร้างเรือเริ่มจากการเลือกต้นตะเคียนขนาดใหญ่ซึ่งมีความเชื่อว่าไม้ชนิดนี้มีพลังศักดิ์สิทธิ์และความทนทาน
พิธีกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการแข่งเรือ
กระบวนการสร้างเรือและการแข่งเรือเต็มไปด้วยพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่การตัดต้นตะเคียน การขอขมาเจ้าแม่ตะเคียน การอัญเชิญดวงวิญญาณของเจ้าแม่มาสถิตในเรือ และพิธีบายศรีสู่ขวัญเรือ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ฝีพายและคนในชุมชน
การแข่งเรือเพื่อสะท้อนวิถีชีวิต
ในอดีต การแข่งเรือไม่เพียงเพื่อความสนุกสนาน แต่ยังเป็นการขอฝนในฤดูแล้ง ตามความเชื่อว่าพญานาคจะดลบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล นอกจากนี้ยังแสดงถึงวิถีชีวิตของชาวเมืองน่านผ่านการแต่งกายแบบดั้งเดิม เช่น เสื้อหม้อห้อม คาดผ้าขาวม้า
การพัฒนาและการสนับสนุน
ในปี พ.ศ.2551 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พระราชทานถ้วยรางวัลแก่การแข่งขันเรือเมืองน่าน เพื่อส่งเสริมให้ประเพณีนี้ยังคงอยู่ต่อไป โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ เรือใหญ่ เรือกลาง และเรือเล็ก นอกจากนี้ยังมีการจัดแข่ง “เรือมะเก่า” เพื่อสะท้อนบรรยากาศดั้งเดิมของการแข่งเรือในอดีต
งานแข่งเรือที่ประทับใจชาวน่านและนักท่องเที่ยว
กิจกรรมการแข่งเรือในปัจจุบันได้พัฒนาขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยยังคงเอกลักษณ์และความงดงามของเรือแข่งเมืองน่าน ผู้เข้าร่วมงานได้เห็นวิถีชีวิต การฟ้อนรำ และเสียงโห่ร้องที่เต็มไปด้วยความสุข สะท้อนถึงความรักในวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนเมืองน่าน
ประเพณีแข่งเรือเมืองน่านไม่ได้เป็นเพียงการแข่งขันกีฬา แต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงวิถีชีวิต ความเชื่อ และความสามัคคีของชุมชนที่สืบทอดมานับศตวรรษ
ร่วมแสดงความคิดเห็น