บัวตอง ความงามที่กลายเป็นประเด็น ในประวัติศาสตร์สิ่งแวดล้อมไทย

ดอกบัวตอง ซึ่งเป็นไม้ดอกสีเหลืองสดใส ที่เปลี่ยนภูเขาหลายแห่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้กลายเป็นทิวทัศน์อันตระการตาในฤดูหนาวทุกปี กลายมาเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการท่องเที่ยวในพื้นที่ ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม ได้รับการโปรโมตให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญระดับประเทศผ่านโครงการ “มหัศจรรย์เมืองไทย 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ดอกบัวตองกลับมีประวัติความเป็นมาที่โยงไปถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่อาจจะส่งผลกระทบระยะยาวในระบบนิเวศของไทย

ความเป็นมาของบัวตองในไทย

ดอกบัวตอง (Tithonia diversifolia) มีต้นกำเนิดจากภูมิภาคอเมริกากลาง โดยเฉพาะในเม็กซิโกและคิวบา และถูกนำเข้ามาในประเทศไทย ในฐานะพืชประดับและพืชป้องกันการชะล้างดิน ก่อนที่จะกลายมาเป็นสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดแม่ฮ่องสอน พืชชนิดนี้สามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีแสงแดดจัดและดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ทำให้ขยายตัวอย่างรวดเร็วในพื้นที่ภูเขาภาคเหนือ

ดอกบัวตองเริ่มได้รับความสนใจ ในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวครั้งแรกในช่วงทศวรรษ 2520 เมื่อชุมชนในแม่ฮ่องสอนจัดเทศกาลบัวตองบาน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ต่อมาทุ่งดอกบัวตองที่ดอยแม่อูคอได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นจุดชมวิวสำคัญ โดยในทุกเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเดินทางมาชมความงดงามของทุ่งดอกไม้สีทอง ซึ่งกลายมาเป็นฤดูกาลที่สร้างรายได้หลักของจังหวัด

บัวตองในฐานะ “พืชต่างถิ่น”

แม้ว่าดอกบัวตองจะมีความงดงาม และสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น แต่ประวัติศาสตร์ของพืชชนิดนี้ ไม่ได้มีเพียงด้านบวก ดอกบัวตองได้รับการจัดให้เป็น “ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นรุกราน” (Invasive Alien Species) ในรายการของฐานข้อมูลชนิดพันธุ์รุกรานระดับโลก (Global Invasive Species Database – GISD) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551

ในแง่ประวัติศาสตร์สิ่งแวดล้อม การขยายตัวของบัวตองในพื้นที่ดอยแม่อูคอและบริเวณใกล้เคียงส่งผลกระทบต่อพืชพื้นเมืองในพื้นที่ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศที่อาจส่งผลต่อความหลากหลายทางชีวภาพในระยะยาว บัวตองมีลักษณะการแพร่พันธุ์ที่รวดเร็วและมีความสามารถในการผลิตสารเคมีประเภทอัลลีโลพาธี (allelopathy) ซึ่งยับยั้งการเจริญเติบโตของพืชอื่น สร้างข้อกังวลในหมู่นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย

บัวตองในสายตานักอนุรักษ์

ความท้าทายของบัวตองในฐานะพืชต่างถิ่นกลายเป็นประเด็นสำคัญในประวัติศาสตร์สิ่งแวดล้อมของไทยในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 มีการเรียกร้องจากนักวิชาการให้ควบคุมการแพร่กระจายของบัวตอง โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าต้นน้ำและพื้นที่ธรรมชาติที่มีความอ่อนไหว อย่างไรก็ตาม เสียงสนับสนุนจากชุมชนท้องถิ่นและกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว ทำให้การจัดการกับบัวตองเป็นประเด็นที่ซับซ้อนซึ่งต้องอาศัยการหาจุดสมดุลระหว่างการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาเศรษฐกิจ

บทเรียนจากบัวตอง

ประวัติศาสตร์ของดอกบัวตองสะท้อนถึงความสำคัญของการตัดสินใจด้านสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบในระยะยาว การที่บัวตองถูกนำเข้ามาในไทยและได้รับการส่งเสริมให้ปลูกในพื้นที่ต่าง ๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบเชิงนิเวศในระยะยาว กลายเป็นบทเรียนที่สำคัญในการจัดการกับชนิดพันธุ์ต่างถิ่นในประเทศไทย

ในขณะที่บัวตองยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความงดงามและเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ การถกเถียงเกี่ยวกับสถานะของบัวตองในฐานะ “พืชต่างถิ่นรุกราน” ยังคงดำเนินต่อไปในแง่ของประวัติศาสตร์และความยั่งยืนของระบบนิเวศในอนาคต

ที่มา : https://www.maehongson.go.th/new/locations/%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%87/ , https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/783220

ร่วมแสดงความคิดเห็น