“พิธีเสนเรือน” สายใยแห่งศรัทธาและมรดกวัฒนธรรมของชาวไทยทรงดำ

ในทุกสังคม ความเชื่อและพิธีกรรมเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงรากเหง้าและอัตลักษณ์ของผู้คน ชาวไทยทรงดำ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ไทยโซ่ง” เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีวิถีชีวิตและขนบธรรมเนียมอันเป็นเอกลักษณ์ หนึ่งในพิธีกรรมที่สำคัญและทรงคุณค่าของพวกเขาคือ พิธีเสนเรือน ซึ่งเป็นการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความเคารพและขอพรให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข

พิธีเสนเรือนเป็นพิธีกรรมที่เกิดขึ้นภายในบ้านของแต่ละครอบครัว โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ “กะล้อห่อง” หรือมุมห้องอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานดวงวิญญาณของบรรพบุรุษ ชาวไทยทรงดำเชื่อว่า ผีเรือนเป็นผู้ปกปักรักษาคนในบ้าน คอยดูแลให้ลูกหลานมีความเจริญก้าวหน้า ดังนั้น การประกอบพิธีเสนเรือนจึงเปรียบเสมือนการรำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษและเป็นการสานสายใยแห่งศรัทธาระหว่างอดีตและปัจจุบัน

พิธีกรรมนี้มักจัดขึ้นทุก 2-3 ปี หรือบ่อยครั้งขึ้นตามฐานะและความพร้อมของแต่ละครอบครัว โดยมี “หมอเสน” เป็นผู้ทำพิธี ญาติพี่น้องทั้งในสายโลหิตและผู้เกี่ยวดองจะเข้าร่วมพิธี โดยฝ่ายเขยและสะใภ้ต้องแต่งชุดพิเศษที่เรียกว่า “เสื้อฮี” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการให้เกียรติแก่ผีเรือน ขณะที่พิธีดำเนินไป เสียงสวดเซ่นไหว้ดังก้องไปทั่วบ้าน พร้อมด้วยกลิ่นหอมของอาหารที่ถูกจัดเตรียมขึ้นอย่างพิถีพิถัน

อาหารในพิธีเสนเรือนมีบทบาทสำคัญไม่เพียงแต่เป็นเครื่องเซ่นไหว้ แต่ยังสะท้อนถึงคติความเชื่อที่สืบทอดกันมา อาหารหลักในพิธีมักประกอบจากหมูหนึ่งตัว ซึ่งใช้ปรุงเป็นเมนูต่าง ๆ ที่มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ เช่น แกงหน่อส้ม หรือแกงหน่อไม้ดองใส่ไก่ ที่เชื่อกันว่าจะนำความอุดมสมบูรณ์และความมั่นคงมาสู่บ้าน แกงบอนที่สื่อถึงความราบรื่นในชีวิต ไก่ซ้องที่ใช้ในการทำนายโชคชะตา ต้มมะแฟงใส่กระดูกหมูซึ่งเป็นตัวแทนของความก้าวหน้าในการทำมาหากิน รวมไปถึงจุ๊บผัก หรือยำผักที่เปรียบเสมือนอาหารแทนใจที่ใช้เซ่นไหว้บรรพบุรุษ

อย่างไรก็ตาม ความเปลี่ยนแปลงของสังคมได้ส่งผลต่อพิธีเสนเรือนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ และการศึกษา ทำให้คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับพิธีกรรมนี้น้อยลง หลายครอบครัวประกอบพิธีเพียงเพื่อรักษาธรรมเนียมโดยที่ขาดความเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริง ในบางพื้นที่ พิธีเสนเรือนได้รับการปรับเปลี่ยนไปตามบริบทของสังคมสมัยใหม่ แต่ก็ยังมีชุมชนไทยทรงดำที่พยายามรักษาขนบธรรมเนียมนี้ไว้อย่างแข็งขัน

แม้วิถีชีวิตของชาวไทยทรงดำจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่พิธีเสนเรือนยังคงเป็นเครื่องเตือนใจถึงรากเหง้าทางวัฒนธรรมและความผูกพันระหว่างครอบครัวกับบรรพบุรุษ มันไม่ใช่เพียงแค่พิธีกรรมทางศาสนา หากแต่เป็นสัญลักษณ์ของความเคารพ ความกตัญญู และการส่งต่อภูมิปัญญาที่ทรงคุณค่าให้คงอยู่สืบไป ผู้ที่มองเห็นความสำคัญของวัฒนธรรมเหล่านี้ ควรช่วยกันรักษาและส่งเสริมให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ เพื่อให้พิธีเสนเรือนยังคงอยู่เคียงคู่กับชุมชนไทยทรงดำไปตราบนานเท่านาน

ที่มา : http://www.m-culture.in.th/album/view/102552/ , https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=2097&code_db=610004&code_type=05
รูปภาพจาก : https://rituals.sac.or.th/detail.php?id=8

ร่วมแสดงความคิดเห็น