ท่ามกลางบรรยากาศอันสงบของ วัดบุปผาราม หรือที่รู้จักกันในนาม วัดสวนดอก ในจังหวัดเชียงใหม่ ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์หนึ่งที่ถือเป็นสมบัติอันล้ำค่าของแผ่นดินล้านนา พระพุทธรูปสำริดขนาดมหึมาที่รู้จักกันในชื่อ “พระเจ้าเก้าตื้อ” ไม่เพียงแต่เป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดของศิลปะล้านนา หากแต่ยังเป็นพยานแห่งศรัทธาอันแรงกล้าของกษัตริย์และประชาชนในยุคอดีตที่มีต่อพระพุทธศาสนา
คำว่า “เก้าตื้อ” สะท้อนถึงขนาดและน้ำหนักอันมหาศาลขององค์พระพุทธรูป คำว่า “ตื้อ” เป็นหน่วยชั่งน้ำหนักของล้านนาโบราณ ซึ่ง 1 ตื้อ มีน้ำหนักประมาณ 1,000-1,200 กิโลกรัม ดังนั้นพระเจ้าเก้าตื้อจึงหมายถึง พระพุทธรูปที่มีน้ำหนักถึง 9 ตัน เป็นพระพุทธรูปที่หล่อด้วยโลหะบริสุทธิ์ที่หนักและมั่นคงที่สุดในประวัติศาสตร์ล้านนา
การสร้างพระเจ้าเก้าตื้อเกิดขึ้นในสมัยของ พระเมืองแก้ว หรือ พระเจ้าศิริธรรมจักรพรรดิราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนาในช่วงพุทธศตวรรษที่ 21 พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างแข็งขัน และทรงมีพระราชประสงค์ให้หล่อพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่เพื่อนำไปประดิษฐานเป็นพระประธานในพระวิหารหลวง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อันเป็นวัดสำคัญของเมืองเชียงใหม่ การหล่อพระเจ้าเก้าตื้อเริ่มขึ้นเมื่อ วันพฤหัสบดี เดือน 8 ขึ้น 11 ค่ำ ปีชวดฉอศก จุลศักราช 866 (พ.ศ. 2047) และเสร็จสมบูรณ์ในปีถัดมา พ.ศ. 2048
อย่างไรก็ตาม เมื่อการหล่อเสร็จสิ้น ปรากฏว่าองค์พระมีขนาดใหญ่มากและมีน้ำหนักมหาศาลจนไม่สามารถชะลอหรือเคลื่อนย้ายเข้าไปในเมืองได้ พระเมืองแก้วจึงทรงมีพระราชดำริถวายเรือนหลวงของพระองค์เองให้เป็นพระวิหารสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปองค์นี้ ณ วัดบุปผาราม หรือวัดสวนดอก ซึ่งตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองเชียงใหม่ และต่อมาเมื่อ วันพุธ เดือน 5 ขึ้น 4 ค่ำ ปีมะเส็ง เอกศก จุลศักราช 870 (พ.ศ. 2052) พระองค์จึงมีรับสั่งให้ชะลอพระเจ้าเก้าตื้อเข้าไปประดิษฐานในพระอุโบสถวัดบุปผาราม ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของพระพุทธรูปมาจนถึงปัจจุบัน
พระเจ้าเก้าตื้อเป็นพระพุทธรูป ปางมารวิชัย ประดิษฐานบนฐานหน้ากระดานเกลี้ยง มีลักษณะเป็น ศิลปะเชียงแสนสิงห์สอง ซึ่งเป็นช่วงที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะสุโขทัยและอยุธยา องค์พระมีลักษณะพระพักตร์รูปไข่ พระรัศมีเป็นเปลว ขมวดพระเกศาเล็ก พระขนงโก่ง พระโอษฐ์อมยิ้ม ริมฝีพระโอษฐ์เป็นคลื่นเหมือนศิลปะสุโขทัย พระอังสากว้าง บั้นพระองค์เล็ก และชายสังฆาฏิยาวจรดพระนาภี แต่สิ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือ ชายสังฆาฏิที่ทำเป็นแผ่นใหญ่ ซึ่งแสดงถึงอิทธิพลของศิลปะอยุธยาที่เริ่มเข้ามาผสมผสานกับศิลปะล้านนาในช่วงเวลานั้น
พระพุทธรูปองค์นี้มีขนาด หน้าตักกว้าง 2.90 เมตร และสูง 3.87 เมตร ลักษณะสง่างาม มั่นคง เปรียบดั่งศรัทธาอันหนักแน่นของชาวล้านนาที่มีต่อพระพุทธศาสนา ความหมายของ “เก้าตื้อ” นอกจากจะหมายถึงน้ำหนักขององค์พระแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ของ ความมั่นคง ความหนักแน่น และความก้าวหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คนเชื่อว่าการได้มากราบไหว้พระเจ้าเก้าตื้อจะนำมาสู่ชีวิตของตนเอง นับตั้งแต่วันที่สร้างเสร็จจนถึงปัจจุบัน พระเจ้าเก้าตื้อเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศต่างหลั่งไหลกันมาเพื่อกราบไหว้และขอพร เชื่อกันว่า การสักการะพระเจ้าเก้าตื้อจะช่วยเสริมความมั่นคงในชีวิต ปัดเป่าอุปสรรค และนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ผู้ที่มีจิตศรัทธา
ในแง่ของประวัติศาสตร์และศิลปะ พระเจ้าเก้าตื้อเป็นเครื่องสะท้อนถึงความรุ่งเรืองของล้านนาในอดีต เป็นตัวแทนของศิลปกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากหลายวัฒนธรรม และเป็นหลักฐานสำคัญที่บอกเล่าถึงยุคสมัยที่พระพุทธศาสนามีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ศิลปกรรมและจิตวิญญาณของผู้คน ปัจจุบัน วัดบุปผาราม หรือวัดสวนดอก ยังคงเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวและชาวพุทธให้ความเคารพอย่างสูง และพระเจ้าเก้าตื้อยังคงเป็นสัญลักษณ์ของพลังแห่งศรัทธาและความศักดิ์สิทธิ์ที่ยืนยงมากว่า 500 ปี ไม่ว่าจะเป็นชาวเชียงใหม่หรือผู้มาเยือนจากแดนไกล การได้มาสักการะพระเจ้าเก้าตื้อถือเป็นโอกาสสำคัญในการเชื่อมโยงจิตใจของตนเองเข้ากับพลังแห่งศรัทธาที่สืบทอดมาตั้งแต่อดีตกาล
มรดกทางวัฒนธรรมที่แท้จริงมิใช่เพียงสิ่งก่อสร้างหรือวัตถุโบราณเท่านั้น หากแต่เป็นความหมายและเรื่องราวที่สืบทอดผ่านกาลเวลา พระเจ้าเก้าตื้อเป็นมากกว่าพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ แต่เป็นสัญลักษณ์ของศรัทธาที่มั่นคง เป็นพยานแห่งประวัติศาสตร์ และเป็นเครื่องเตือนใจว่าความศรัทธาอันหนักแน่นสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ เมื่อใดก็ตามที่พระเจ้าเก้าตื้อยังคงตั้งตระหง่านอยู่ ณ วัดสวนดอก เมื่อนั้นเรื่องราวของพระองค์จะยังคงถูกเล่าขาน และพลังแห่งศรัทธาจะยังคงอยู่คู่กับแผ่นดินล้านนาตราบนานเท่านาน
ที่มา : https://www.finearts.go.th/chiangmaimuseum/view/37693 , https://www.silpa-mag.com/history/article_16294 รูปภาพจาก : https://www.chiangmainews.co.th/100lanna/1296960/
ร่วมแสดงความคิดเห็น