ท่ามกลางสายลมแห่งฤดูกาลที่พัดผ่านท้องทุ่งเขียวขจีของภาคเหนือและภาคอีสานของไทย ชาวนาผู้เป็นกระดูกสันหลังของชาติยังคงดำรงไว้ซึ่งประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ หนึ่งในนั้นคือ “ประเพณีแฮกนา” หรือพิธีกรรมแห่งการลงไถครั้งแรกของฤดูกาลทำนา ซึ่งไม่เพียงสะท้อนถึงภูมิปัญญาการเกษตรเท่านั้น แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงจิตวิญญาณของชาวนากับธรรมชาติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาผืนดินอันเป็นแหล่งผลิตอาหารหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คน
ประเพณีแฮกนาเป็นพิธีกรรมที่มีรากเหง้ามาจากความเชื่อโบราณซึ่งผสมผสานทั้งศาสนาฮินดูและพุทธศาสนาเข้าด้วยกัน มีความเกี่ยวข้องกับพระแม่โพสพ เทพแห่งข้าว และพญานาคผู้เป็นสัญลักษณ์ของน้ำและความอุดมสมบูรณ์ ความเชื่อเหล่านี้ฝังลึกอยู่ในวัฒนธรรมเกษตรกรรมของไทย โดยเฉพาะในล้านนาและอีสาน ซึ่งเป็นดินแดนที่น้ำจากฝนฟ้าและสายน้ำคือปัจจัยสำคัญในการปลูกข้าว
การเริ่มต้นทำนาของชาวนาไม่ได้เป็นเพียงกระบวนการทางเกษตรกรรมเท่านั้น แต่เป็นพิธีกรรมที่ต้องอาศัยฤกษ์ยามและพิธีเซ่นไหว้ เพื่อขอพรให้การเพาะปลูกตลอดปีเป็นไปอย่างราบรื่น ไร้พิบัติภัย และได้ผลผลิตอุดมสมบูรณ์ ประเพณีแฮกนาจึงเป็นมากกว่าการลงมือทำไร่ไถนา แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเคารพต่อธรรมชาติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของมนุษย์
พิธีกรรมแห่งแฮกนา เส้นทางแห่งมงคลตั้งแต่แรกไถจนถึงวันเก็บเกี่ยว
ประเพณีแฮกนาไม่ได้มีเพียงแค่การลงไถครั้งแรกเท่านั้น แต่ครอบคลุมตลอดกระบวนการปลูกข้าว ตั้งแต่การไถ การหว่านกล้า การถอนกล้า การปักดำ การดูแลรักษา ไปจนถึงวันเก็บเกี่ยว แต่ละขั้นตอนล้วนแฝงไว้ด้วยความหมายทางจิตวิญญาณและความเชื่อที่ลึกซึ้ง
แฮกไถ สายสัมพันธ์แห่งดินและพญานาค
การเริ่มต้นฤดูกาลทำนาจะต้องทำพิธี “แฮกไถ” หรือการลงไถครั้งแรก ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ชาวนาต้องให้ความเคารพต่อพญานาค เพราะตามความเชื่อโบราณ พญานาคเป็นผู้ปกปักรักษาแหล่งน้ำและผืนดิน การไถนาเปรียบเสมือนการกรีดร่างของพญานาคลงบนผืนแผ่นดิน ดังนั้นชาวนาจะต้องคำนึงถึงทิศที่พญานาคหันหัวไปในปีนั้น และหลีกเลี่ยงการไถทวนหรือย้อนเกล็ดพญานาค มิฉะนั้นอาจเกิดอัปมงคล เช่น ไถหัก วัวควายตื่นตกใจ หรือผลผลิตไม่อุดมสมบูรณ์
หลังจากเตรียมดินเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ “แฮกหว่าน” หรือการหว่านเมล็ดข้าวลงบนพื้นนา การหว่านข้าวไม่ได้ทำไปอย่างไร้ทิศทาง แต่ต้องเลือกวันมงคลในการหว่าน โดยถือเคล็ดให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก แล้วหลับตาหว่านเมล็ดข้าวจำนวนหนึ่งก่อน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าศัตรูพืชจะมองไม่เห็นเมล็ดข้าวที่หว่านไป จากนั้นจะทำพิธีเซ่นไหว้พระแม่ธรณีเพื่อฝากให้ช่วยดูแลเมล็ดพันธุ์ให้เจริญงอกงาม
แฮกหลกและแฮกปลูก พิธีกรรมแห่งการให้กำเนิดต้นกล้า
เมื่อต้นกล้าเติบโตได้ระยะหนึ่ง ชาวนาจะทำพิธี “แฮกหลก” หรือการถอนต้นกล้าออกจากแปลงเพื่อนำไปปักดำ จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอน “แฮกปลูก” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งพิธีสำคัญที่ต้องเลือกวันมงคล การปลูกข้าวในวันต้องห้ามอาจนำมาซึ่งภัยพิบัติหรือนกและแมลงศัตรูพืชเข้ามาทำลายผลผลิต ชาวนาเชื่อว่าขวัญของต้นข้าวจะสถิตอยู่ในไม้บางชนิดที่เปลี่ยนไปตามวันมหาสงกรานต์ของแต่ละปี และจะใช้ไม้นั้นมาทำเป็นคันข้าวแฮก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการขอพรให้ผลผลิตงอกงาม
เมื่อฤดูเก็บเกี่ยวมาถึง นอกจากจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของชาวนาแล้ว ยังเป็นช่วงที่ต้องทำพิธีขอขมาแม่โพสพ โดยนำเครื่องเซ่นไหว้ไปบูชาที่แท่นนา อาทิ กระจก หวี แป้ง น้ำมัน ปลาย่าง เนื้อย่าง หมาก เมี่ยง บุหรี่ และดอกไม้ การเซ่นไหว้แม่โพสพในช่วงนี้เปรียบเสมือนการขอบคุณที่ท่านได้ปกป้องต้นข้าวให้งอกงามตลอดฤดูกาล และขอพรให้ปีต่อไปได้รับผลผลิตที่ดียิ่งขึ้น
มากกว่าประเพณีคือสายใยแห่งวัฒนธรรม
แม้ว่าปัจจุบันเครื่องจักรกลทางการเกษตรจะเข้ามามีบทบาทแทนที่แรงงานคนและสัตว์ แต่วิถีแห่งแฮกนายังคงเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ชาวนาล้านนาและอีสานยังคงถือปฏิบัติ แม้ในบางพื้นที่อาจเหลือเพียงการทำพิธีกรรมเชิงสัญลักษณ์ แต่ก็ยังสะท้อนถึงความผูกพันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ประเพณีแฮกนาไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกร แต่ยังเป็นการถ่ายทอดภูมิปัญญาและความเคารพต่อธรรมชาติจากรุ่นสู่รุ่น เป็นเครื่องเตือนใจว่า การทำนาไม่ใช่เพียงแค่การหว่านเมล็ดข้าวลงไปในผืนดิน แต่คือการวางรากฐานของวัฒนธรรม ความเชื่อ และสายใยแห่งชีวิตที่ผูกพันกับแผ่นดินไทยมาเนิ่นนาน
ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประเพณีแฮกนาอาจกลายเป็นสิ่งที่ถูกลืมเลือนไปทีละน้อย แต่สำหรับผู้ที่ยังคงยึดมั่นในวิถีดั้งเดิม ประเพณีนี้ยังคงเป็นเครื่องหมายแห่งความเคารพต่อธรรมชาติ และเป็นมรดกอันล้ำค่าที่สมควรได้รับการอนุรักษ์ไว้ให้คงอยู่ต่อไปตราบนานเท่านาน
ที่มา : https://www.nuac.nu.ac.th/?p=407 , https://www.silpa-mag.com/culture/article_32683
รูปภาพ : https://rae.mju.ac.th/wtms_newsDetail.aspx?nID=31619&lang=th-TH
ร่วมแสดงความคิดเห็น