ปลูกส้มโออินทรีย์ลดต้นทุน ขายทำกำไรได้กว่า 5 เท่า ตอบโจทย์ความต้องการตลาดบริโภคปลอดภัย
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ปลูกส้มโอในพื้นที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ปรับกลยุทธหนีค่าปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงแพง หันมาทำเกษตรอินทรีย์ ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมาดูแลการผลิตส้มโอ พบผลผลิตรสชาติดีปรับแต่งรสชาติได้ตามความต้องการตลาด ลดผลกระทบในการใช้เคมีและยาฆ่าแมลง ตลาดมีความต้องการโดยเฉพาะโมเดิร์นเทรดและศูนย์อาหาร ที่สำคัญสามารถลดต้นทุนการผลิตได้กว่า 5 เท่า เพื่อให้เกิดความสมดุลทางเศรษฐกิจสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศซึ่งนำไปสู่การพึ่งตนเอง การพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรและผู้บริโภค โดยหลักการทำเกษตรอินทรีย์ระบบ SDG PGS นั้นไม่เบียดเบียนตนเองไม่เบียดเบียนผู้อื่นและไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม และต้องมีรายได้มากกว่ารายจ่าย

นายสุนทร อินเทพ เกษตรกรบ้านยาย ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เผยว่า ก่อนหน้าเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา ตนนได้เริ่มทำสวนส้มโอจำนวนกว่า 200 ต้น ในพื้นที่ 5ไร่ ปีแรกๆผลผลิตก็ออกมาดีและขายได้ราคาสูงเกิดความค้มค่า หลังวิกฤติไวรัสโควิด-19 ระบาด ทำให้ผลผลิตราคาตกต่ำตลาดส่งออกก็หยุดไป ซ้ำราคาปุ๋ยเคมียาฆ่าแมลงปรับตัวสูงขึ้นทำแล้วไม่ค่อยเหลือกำไร และผลกระทบกับผู้ปลูกและผู้บริโภคที่ได้รับสารพิษเข้าในร่างกาย เกษตรกรรมยั่งยืนคือระบบเกษตรกรรมที่ครอบคลุมถึงวิถีชีวิตเกษตรกร กระบวนการผลิต และการจัดการทุกระบบต้องมีความปลอดภัย
เมื่อปีที่แล้วตนได้ปรับการดูแลผลผลิตจากการให้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง เป็นไช้ปุ๋ยชีวภาพและใช้ภูมิปัญญาดั่งเดิมในการดูแลแมงที่มีทำลายผลผลิต และได้ผลเป็นอย่างดีช่วยลดต้นทุนการผลิตได้กว่า 5 เท่าตัว โดยปีนี้ขายได้ผลผลิตรวมกว่า 5 แสนบาท ใช้ทุนในการดูแลเพียงไม่ถึงแสน ผลผลิตขายได้เร็วมีทางห้างโมเดรินเทรดรับซื้อผลิตทั้งหมด และในช่วงเทศกาลงานส้มโอของดีอำเภอเวียงแก่นประจำปี 29 ส.ค.-4 ก.ย. 65 ได้นำผลผลิตที่เหลือไว้ไปขายด้วยเช่นกัน ผลการตอบรับดีผู้บริโภคเลือกที่จะรับประทานส้มโอปลอดสารพิษกันมากขึ้น

“ได้ศึกษาเกี่ยวกับการปรับปรุงคุณภาพส้มโอให้มีรสชาติหวานอร่อยพบว่ามีสิ่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุดคือขี้เถ้าที่ได้จากการเผาไหม้จากเตาเผาถ่าน ขี้เถ้าที่ได้จากการเผาถ่านหน้าเตาเผาถ่านมีค่าทางชีวภัณฑ์เป็นด่าง ซึ่งมีประโยชน์ในการปรับปรุงดินจากดินเป็นกรดขึ้นมาเป็นกลางได้ค่า PH ของดิน ที่พืชจะนำอาหารขึ้นไปกินได้ต้องมีสภาพเป็นกลางคือประมาณ 6-6.5 พูดถึงจะดูดกินอาหารได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งในในขี้เถ้ายังมีโปแตสเซียมซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายแป้งให้เป็นน้ำตาลได้ในไม้ผลเช่นส้มโอได้ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ และพบว่าเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม SDG PGS เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่มีแนวปฏิบัติที่ควบคุมถึงระบบการพัฒนาเกษตรกรรมแบบยั่งยืน SDG (Sustainable development coals) และเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม pGS (Particpatory Guarantee sytem) โดย ดร.อนุรักษ์ เรืองรอบ นักวิชาญการอิสระ นายกสมาคมการค้าเกษตรกรรมยั่งยืนไทย เป็นผู้ริเริ่มโมเดลนี้ และตนนำมาเป็นแนวปรับเปลี่ยน” นายสุนทร อินเทพ กล่าว







ร่วมแสดงความคิดเห็น