(มีคลิป) แกร็ปคาร์วอนคู่กรณีรับผิดชอบ หลังถูกป้ายแดงหรูชนเป็นรอย

YouTube video

หนุ่มแกร็ปคาร์วอนคู่กรณีกลับมารับผิดชอบ หลังถูกรถหรูป้ายแดงเบียดชนเป็นรอยยาว ก่อนหลบหนีเข้ากลีบเมฆ!

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 65 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีหนุ่มเชียงรายถูกรถเบียดชนในซอยสถานบันเทิงกลางเมืองเชียงราย ส่วนคู่กรณีขับรถหรูหนี ไม่ยอมลงมาเจรจา วอนขอช่วยกลับมาจ่ายค่าซ่อมสีรถด้วย

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามผู้เสียหายคือ นายณัฐวัตร ทวีวัฒนสมบูรณ์ อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 263/14 ม.9 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนทำงานเป็นช่างภาพและขับรถแกร๊ปคาร์รับส่งผู้โดยสาร วันที่เกิดเหตุคือวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมาช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ตนกลับจากไปส่งลูกค้า กำลังขับรถจะมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยขับผ่านถนนหน้าร้านตะวันแดงและจะเลี้ยวออกไปถนนพหลโยธินเส้นตัดผ่านในตัวเมือง แต่เมื่อขับมาถึงแถวร้านเฮาบาร์ ได้มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อ BMW สีดำ ป้ายแดง ไม่ทราบเลขทะเบียน ได้ขับมาสวนทางกัน ตนเห็นว่าถนนแคบเพราะมีร้านค้านำเก้าอี้มาวางริมทาง จึงหลบไปทางซ้ายมือ ซึ่งมีร้านหมึกย่างตั้งอยู่ริมทาง แต่รถหรูดังกล่าวก็ขับมาเบียดรถของตน และขับออกไปโดยไม่จอดเจรจา ตนจึงจอดรถไว้ข้างทางและวิ่งติดตามรถคันดังกล่าว แต่รถหรูกลับขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตนเองวิ่งตามไม่ทัน

“เมื่อตนกลับไปถึงบ้าน ก็ไปสำรวจความเสียหาย พบว่ามีรอบขูดที่ข้างรถฝั่งขวามือ เป็นรอยยาว ไฟท้ายด้านขวาแตก จึงไปขอคลิปของร้านค้าในที่เกิดเหตุและนำไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองเชียงราย เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามดูกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ แต่ด้วยความมืดจึงไม่มีกล้องที่สามารถจับภาพรถคู่กรณีได้ชัดเจน จนผ่านมาหลายวัน ตนไม่รู้จะไปร้องทุกข์ที่ไหน จึงอยากวอนขอความร่วมมือให้สิ่อโซเซียลช่วยกระจายข่าวและแจ้งเบาะแสเข้ามาที่ สภ.เมืองเชียงราย เพื่อให้คู่กรณีกลับมาชดใช้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถ เพราะตนก็แค่คนก็ทำงานรับจ้างหาเช้ากินค่ำ” นายณัฐวัตร กล่าว

จากการลงพื้นที่ พบว่าถนนดังกล่าวเป็นถนนส่วนบุคคล ตามริมทางจะเป็นร้านค้า สถานบันเทิง สำหรับผู้ชอบเที่ยวกลางคืน ซึ่งทุกคืนมักจะมีรถเข้าออกในถนนสายดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ทั้งใช้เป็นทางผ่านหรือแวะเที่ยวกินดื่ม หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะลงพื้นที่ติดตามผู้ก่อเหตุเพิ่มเติม หรือใครที่มีเบาะแสก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย เพื่อจะสามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น