เปิดคลิปสองหนุ่มวางมวย ย่านสันผีเสื้อ สานหมัดกันนัว เหตุเกิดจากล่วงล้ำพื้นที่หน้าห้องพัก เจ้าของคลิปเผย แค่อยากเอามาเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ ให้มีน้ำใจกับเพื่อนบ้านหรือคนอยู่ข้างห้อง
คลิปวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ชายสองคนกำลังทะเลาะวิวาทกันบริเวณด้านหน้าห้องแถวแห่งหนึ่งในย่าน ต.สันผีเสื้อ จ.เชียงใหม่ ซึ่งต่อมาทางด้านผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง ได้นำคลิปมาโพสต์ลงบนโลกโซเชี่ยล พร้อมทั้งระบุข้อความเพียงสั้นๆ ว่า “มวยมันๆ สันผีเสื้อ (Don Butterfly)” โดยในคลิปก่อนมีการทะเลาะวิวาทกันนั้นชายสวมเสื้อแขนยาวสีแดง ได้ขับรถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณหน้าห้องแถว ก่อนที่จะมีชายเสื้อดำที่อยู่ห้องข้างมาพูดคุยด้วย หลังจากนั้นชายสวมเสื้อแขนยาวสีแดงได้ถอดเสื้อออกแล้วเดินไปคุยกับชายเสื้อดำคนดังกล่าว ซึ่งระหว่างนั้นมีการต่อว่าและมีปากเสียงกัน จนกระทั่งต่อมาทั้งคู่ได้เริ่มวางมวยแลกหมัดกันนัวเนียอยู่ราวเกือบ 3 นาที จนกระทั่งชาวบ้านในระแวกต้องเข้ามาห้ามปราม และแยกทั้งคู่จากกัน

ขณะที่ต่อมาจากการสอบสาวราวเรื่องเหตุทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นนี้ มีสาเหตุมาจากทั้งคู่ไม่พอใจกันเรื่องพื่นที่จอดรถบริเวณด้านหน้าห้องแถว และมีการขอดรถล้ำขอบเขตบริเวณหน้าห้อง จนต้องมีการแบ่งเขตพื้นที่กันอย่างชัดเจน แต่ขณะที่อีกฝ่ายซึ่งเป็นคู่กรณีที่อยู่ห้องข้างบางครั้งมีการจอดรถล่วงล้ำเข้ามาพื้นที่จนทำให้ฝ่ายเจ้าของโพสต์ต้องเอาม้านั่งหินอ่อนมากั้นเขต ทำให้เกิดความไม่พอใจกันและเป็นที่มาของเหตุทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นดังกล่าว
ขณะที่ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปหาทางเจ้าของโพสต์คลิปวีดีโอดังกล่าวนี้ ทราบชื่อคือ นายอภิชาติ อายุ 39 ปี มีอาชีพเป็นช่างรับเหมาต่อเติม และเป็นบุคคลที่อยู่ภายในคลิปดังกล่าวด้วย โดยจากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ้าตัวเล่าว่า คลิปวิดีโอเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงประมาณเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยตอนนั้นได้ไปเช่าห้องแถวที่เกิดเหตุกับแฟน เพื่อให้แฟนเปิดร้านเสริมสวย โดยกำลังเช่าอยู่ได้ประมาณ 1 เดือนเศษก็เกิดเรื่องขึ้น จากการที่ตนกับคู่กรณีซึ่งอยู่ห้องข้างติดกันมีอาชีพพ่อค้าขายไก่ในตลาดรวมโชค ไม่พอใจกันเรื่องที่จอดรถและขอบเขตบริเวณด้านหน้าห้องแถว เพราะคู่กรณีชอบจอดรถเลยเข้ามาที่เขตของตน บางครั้งก็จอดรถเอียงเอารถมาบังหน้าร้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็เคยพูดคุยกับคู่กรณีเพื่อตกลงแบ่งเขตกันอย่างชัดเจน แต่ก็ยังถูกล่วงล้ำพื้นที่อยู่

ต่อมาตนจึงได้นำเก่าอี้หินอ่อนมาวางกั้นเพื่อเป็นการแบ่งเขตอย่างชัดเจน และไม่ให้คู่กรณีเอารถมาจอดล่วงล้ำเขตอีก และคิดว่าน่าจะทำให้คู่กรณีเกิดความไม่พอใจ เนื่องจากต้องเอารถเข้ามาจอดและอาจจะทำให้เปิดประตูรถลำบาก ซึ่งตอนนั้นตนก็ไปทำงานแล้วไม่ได้ไปที่ห้องแถวราวๆ 2-3 วัน จนกระทั่งในวันเกิดเหตุ ตนกลับจากทำงานแล้วกำลังขับรถจักรยานยนต์เข้ามากินข้าวที่ห้องแถว ก็พบชายคู่กรณีนั่งรถอยู่หน้าห้อง เมื่อตนจอดรถชายคนดังกล่าวก็ตะโกนบอกว่า “รอตนมาหลายวันแล้ว” หลังจากนั้นตนก็เข้าไปพูดคุยด้วย แล้วชายคนดังกล่าวก็พูดเชิงไม่พอใจืี่ตนเอาม้านั่งหินออนทากั้นที่ อีกทั้งบอกว่ามีการเลยมาที่ของตัวเอง ตนจึงบอกไปว่า แค่อยากลองใจว่าจะโกรธหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาคู่กรณีก็จอดรถเลยเขตมาบ่อยครัั้ง
หลังจากที่พูดคุยมีปากเสียงกันซักพัก ก็เกิดการพูดจาท้าชกต่อยกัน ตนจึงถอดเสื้อแขนยาวออกแล้วเข้าไปใกล้ๆ ชายคู่กรณี แต่ชายคู่กรณีได้เป็นคนเปิดหมัดใส่ตนก่อน ระหว่างนั้นตนได้ยกมือขึ้นมากัน ก่อนจะมีการสาวหมัดใส่กันอย่างชุลมุนวุ่นวาย ท่ามกลางสานตาชาวบ้านในระแวก และต่อมาได้เข้ามาห้ามปราม โดยหลังเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ตนก็เป็นคนโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะเห็นว่าตัวเองถูกทำร้ายก่อน จนต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้ามาตรวจสอบ และสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งตนกับคู่กรณียอมรับว่าต่างคนต่างมีการชกต่อยทั้งคู่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้เป็นการสมัครใจทะเลาะวิวาท และได้พูดคุยปรับความเข้าใจกัน

ต่อมาหลังเกิดเหตุ ทางเจ้าของห้องแถวได้ขอให้ตนย้ายออกจากห้องแถวดังกล่าว เพราะไม่อยากให้อยู่ร่วมกับคู่กรณีอีก เนื่องจากเกรงจะเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นอีก หลังจากนั้นตนจึงย้ายมาเปิดร้านอีกที่ซึ่งอยู่บริเวณก่อนถึงวัดสันทรายต้นกอก ห่างจากจุดที่อยู่เดิมราวๆ เกือบ 1 กิโลเมตร
นายอภิชาติ บอกอีกว่า สาเหตุที่นำคลิปวิดีโอนี้มาเผยแพร่ ก็เพราะต้องการให้เป็นเรืรองราวอุทาหรณ์เกี่ยวกับความมีน้ำใจให้กันระหว่างเพื่อนบ้าน หรือเพื่อนห้องเช่า เพราะไม่คิดว่าเพียงแต่เรื่องที่จอดรถจะกลายเป็นสาเหตุให้เกิดเรื่องราวทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น และอยากให้ทุกคนใจเย็น เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นเดียวกับตน อีกทั้งในวันนั้นหากตน หรือคู่กรณีมีอาวุธ เรื่องราวก็อาจจะบานปลายใหญ่โตกว่านี้ โดยหลังเกิดเหตุตนก็ได้รับบาดเจ็บจากการชกต่อยเช่นกัน แต่ตอนนี้ตนกับคู่กรณีก็ไม่ได้ติดใจกันแล้ว และต่างคนต่างอยู่ ทำมาหากินกันต่อไป







ร่วมแสดงความคิดเห็น