ปภ.สั่งระดมเครื่องจักรสาธารณภัยเข้าเสริมกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ปภ.สั่งระดมเครื่องจักรสาธารณภัยเข้าเสริมกำลังช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม

(12 ต.ค.65) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ระดมเครื่องจักรกลสาธารณภัยกว่า 600 รายการ เข้าเสริมกำลังช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เน้นการช่วยเหลือด้านชีวิต การอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ พร้อมสั่งการศูนย์ ปภ.เขต วางแผนการกระจายเครื่องจักรกลสาธารณภัยเพื่อให้มีความคล่องตัวและต่อเนื่องในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากภาวะฝนตกหนักและแม่น้ำสายหลักเอ่อล้น ทำให้มีน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างในหลายจังหวัด เพื่อให้การเผชิญเหตุและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำเป็นไปด้วยความรวดเร็ว กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย จึงได้บริหารจัดการทรัพยากรด้านสาธารณภัย โดยสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตนำเครื่องมือเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นต่อการเผชิญเหตุอุทกภัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการเข้าประจำการในพื้นที่ประสบอุทกภัยตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขสถานการณ์และให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันต่อเหตุการณ์ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบสูง ได้แก่ พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก พื้นที่เขตเศรษฐกิจ และพื้นที่เปราะบาง ขณะนี้ ปภ.ได้ระดมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าเสริมกำลังช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางรวมแล้วกว่า 600 รายการ อาทิ เครื่องสูบน้ำอัตราสูบ 28,000 ลิตรต่อนาที จำนวน 156 เครื่อง เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ 111 ลำ รถบรรทุกเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล 22 คัน รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย 88 คัน สะพานเบลีย์ 23 ชุด รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว 39 คัน รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย 19 คัน รถสูบน้ำท่วมขัง 15 คัน ซึ่งได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติภารกิจการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม การสูบน้ำระบายน้ำ และการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง

นายบุญธรรม กล่าวต่อไปว่า สำหรับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดอุบลราชธานี ปภ.ได้เตรียมความพร้อมรับมือและการเผชิญเหตุตั้งแต่ช่วงก่อนสถานการณ์พายุโนรู ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ ปภ.พร้อมด้วยเครื่องจักรกลยังคงปฏิบัติงานในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง ซึ่ง ปภ. ได้ระดมเครื่องจักรกลสาธารณภัยของ ปภ. จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 13 อุบลราชธานี และศูนย์ ปภ. เขต ใกล้เคียง รวมกว่า 88 รายการ อาทิ เครื่องสูบน้ำ 5 เครื่อง เรือท้องแบน 9 ลำ เรือพายพลาสติก 51 ลำ เรือยนต์กู้ภัย 4 ลำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย 14 คัน รถบรรทุกขนาดใหญ่ 1 คัน สะพานเบลีย์ 1 ชุด รวมถึงรถบรรทุกรถประกอบอาหาร รถผลิตน้ำดื่ม ฯลฯ เข้าสนับสนุนการคลี่คลายสถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดอุบลราชธานี รวมทั้งให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัย โดยเฉพาะเส้นทางคมนาคมหลักที่ได้รับผลกระทบ ได้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการรถยกสูง รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย และเรือในการช่วยเหลือด้านการเดินทางแก่ประชาชน นอกจากนี้ ได้ร่วมกองทัพบก (ทบ.) จัดส่งเฮลิคอปเตอร์ KA-32 จำนวน 1 ลำ เข้าสนับสนุนภารกิจการให้ความช่วยเหลือทางอากาศยานการนำส่งเคลื่อนย้ายลำเลียง การส่งกำลังบำรุงพื้นที่ถูกตัดขาด ซึ่งจะปฏิบัติการในพื้นที่อย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

นายบุญธรรมกล่าวเพิ่มเติมว่า ปภ.ได้เตรียมความพร้อมเครื่องจักรกลและเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติตามลักษณะภัยที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งได้กำหนดแนวทางการสนับสนุนการปฏิบัติการในพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อให้มีความคล่องตัวและต่อเนื่องในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยในพื้นที่ชุมชนเขตเมืองได้จัดตั้งพื้นที่ปฏิบัติการ (Staging Areas) เน้นการช่วยเหลือด้านชีวิตการอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ส่วนพื้นที่ชุมชนนอกเขตเมือง ศูนย์ ปภ.เขต จะกระจายเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติการรองรับสถานการณ์ในพื้นที่ที่เข้าถึงยากและเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชม. รวมถึงจัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนทันที โดยยึดหลักการดำรงชีวิตได้ในช่วงที่เกิดสถานการณ์และดำเนินการแก้ไขฟื้นฟูให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีความพร้อมปฏิบัติการในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง และพร้อมประสานการดูและประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณภัย

ร่วมแสดงความคิดเห็น