ชูอัตลักษณ์ท้องถิ่น ผลักดัน “ภูชี้ฟ้า” เที่ยวได้ทั้งปี มีดีทุกเดือน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ก.ค. 65 ดร.ประภาพรรณ วุ่นสุข ผอ.กลุ่มงานวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศชุมชน กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะทำงาน Change For Good กระทรวงมหาดไทย ทีมเชียงราย ได้พาทีมงานลงพื้นที่บ้านร่มฟ้าไทย ม.24 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย เพื่อศึกษาข้อมูลเชิงลึก เก็บรวมรวมข้อมูลร่วมกับชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน ส่วนราชการ สถานศึกษา ภาคประชาสังคม และเอกชน เพื่อนำไปสู่การกำหนดแผนการพัฒนาชีวิตประชาชนบนพื้นที่สูงตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีนายเอกชัย หาญสุวรรณชัย นายก อบต.ตับเต่า นายสุรชัย เกียรติไพรยศ กำนัน ต.ตับเต่า นางลัดดา สมหนองบัว ปลัดอำเภอเทิง พร้อมหัวหน้าหน่วยงาน ผู้นำชุมชน และตัวแทนผู้ประกอบการ ร่วมให้ข้อมูลแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ณ ภูชี้ฟ้าอินน์ ม.24 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย

ด้วยกระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดให้จังหวัดเชียงราย เป็นพื้นที่นำร่องการขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ เพื่อขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกชวงวัย ลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมุ่งเน้นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนา และพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยพิบัติซ้ำชาก ตามหลักปรัชญาของเศรษกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ รวมทั้งใช้โอกาสจากภาคแรงานที่มีทักษะ และศักยภาพที่ประสบกับปัญหาการเลิกจ้างงานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 2019 (COVID-19) ที่กลับไปยังบ้านเกิด เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาพื้นที่เป้าหมาย สร้างการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green

Economy) มีความพร้อมรับมือภัยพิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งในระดับพื้นที่ ประชาชนมีรายได้ มีความมั่นคงทางน้ำ อาหาร และพลังงานตลอดจนเกิดการพื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เป็นรูปธรรม กระทรวงมหาดไทยจึงได้แต่งตั้งผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ร่วมเป็นคณะทำงาน Change for Good ของกระทรวงมหาดไทย เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ โดยคณะทำงานฯ มีกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อศึกษาข้อมูลสนับสนุนการขับเคลื่อนการดำเนินงานข้างต้น ในช่วงระหว่างวันที่ 7 – 10 ก.ค. 65 โดยมีการกำหนดพื้นที่เป้าหมายในการพัฒนาทั้งหมด 7 จุด ซึ่งภูชี้ฟ้าเป็นเป้าหมายแห่งสุดท้ายที่คณะทำงานได้มาลงพื้นที่เก็บข้อมูล

สำหรับ “ภูชี้ฟ้า” ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าไทย ม.24 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย ทางตัวแทนหน่วยงานราชการ ผู้นำชุมชน และตัวแทนผู้ประกอบการ ได้นำเรียนถึงจุดเด่นของพื้นที่ ที่สามารถจะนำมาชูเป็นจุดสนใจให้นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปีนอกเหนือจากการเป็นจุดชมทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ ผลิตภัณฑ์อื่นในชุมชนก็มีความน่าสนใจไม่ต่างกัน เช่น “ผลิตภัณฑ์ผ้าใยกัญชง” ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ไม่มีเครื่องจักรทุ่นแรง กว่าจะได้ผ้าใยกัญชงหนึ่งผืนจะต้องผ่านกรรมวิธีที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน เป็นงานฝีมือแฮนด์เมดที่หาดูได้ยากมากในปัจจุบัน ราคาสูง เส้นใยกัญชงเป็นเส้นใยที่มีความแข็งแรง อายุใช้งานนับ 100 ปี สามารถใช้ถักทอเป็นส่วนประกอบของเสื้อเกราะกันกระสุนได้ แถมมีคุณสมบัติระบายความร้อนได้ดี สามารถลดกลิ่นเหงื่อของผู้สวมใส่ได้อีกด้วย

“ผลิตภัณฑ์จากชาอัสสัม” ซึ่งเป็นชาป่า ในอดีตชาวบ้านจะตากแห้งแล้วนำไปบรรจุเป็นซองสำหรับนำไปชงดื่มร้อนๆ แต่ปัจจุบันทางชุมชนได้พัฒนาให้มีความหลากหลาย ได้แก่ การแปรรูปเป็นเมี่ยง ทำเป็นชามะนาว หรือแชมพูชาอัสสัม เป็นต้น และยังมีผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อที่เป็นที่รู้จักของชาวบ้านในพื้นที่ก็คือ ผ้าเขียนเทียน ผ้าปักลาย เครื่องเงิน หรือแม้แต่ผลิตผลทางการเกษตรในพื้นที่หลายอย่างก็เป็นสินค้าที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน เช่น กะหล่ำ กาแฟ สตรอเบอรี่ ฯลฯ
นอกจากนี้ในพื้นที่ภูชี้ฟ้ายังมีประวัติยาวนาน มีการตั้งชุมชนมานานกว่า 200 ปี ผ่านยุคสมัยของสงครามคอมมิวนิสต์ ที่เกิดจากความเห็นต่างทางความคิด สามารถหยิบยกเอาเรื่องราวดังกล่าว มาจำลองไว้ตามจุดต่างๆเพื่อสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ได้

อย่างไรก็ตามการจะพัฒนา “ภูชี้ฟ้า” ยังมีความเป็นไปได้ยาก เพราะสภาพพื้นที่เป็นพื้นที่ความมั่นคง มีชายแดนติดต่อกับ สปป.ลาว แถมพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าไม้และอุทยาน ทำให้การจะพัฒนาเป็นไปด้วยความลำบาก ต้องผ่านความเห็นชอบจากหลายหน่วยงาน งบพัฒนาของท้องถิ่นมีจำกัด และในส่วนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกชนิดมีปัญหาการขาดองค์ความรู้และอุปกรณ์ ที่จะนำมาพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย ทันสมัย และยังต้องการการส่งเสริมด้านการตลาด ทั้งช่องทางปกติและการขายออนไลน์ ซึ่งทางทีมงาน Change For Good จะได้นำเอาทั้งจุดดีจุดเด่นของพื้นที่ และปัญหาอุปสรรคที่ชาวบ้านพบเจอ ไปวางแผนเพื่อจะนำไปสู่การพัฒนาในอนาคต

หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมการพบปะพูดคุยกับผู้นำและผู้ประกอบการแล้ว ก่อนเดินทางกลับ ทีมงาน Change For Good ได้ไปเยี่ยมชม “กลุ่มตีมีด” ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของชุมชนภูชี้ฟ้า ในชุมชนจะมีชาวบ้านบางส่วนที่ประกอบอาชีพตีมีด โดยใช้เหล็กแหนบ สามารถผลิตมีดหรือดาบตามแบบที่ลูกค้าสั่งได้ มีลูกค้ามาแวะซื้อหาตลอด โดยทีมงานจากกระทรวงมหาดไทย ได้ชี้แนะถึงการสร้างแบรนด์ของชุมชน เพื่อให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป

ช่วงบ่ายคณะทำงานได้เดินทางกลับไปประชุมร่วมกันที่ห้องประชุมอำเภอเทิง เพื่อจัดทำ (ร่าง) โครงการพัฒนาฯ และ Business Model ของพื้นที่ SEDZ เชียงราย ที่เชื่อมโยงไปสู่เป้าหมายระยะสั้น กลาง ยาว ของพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมไปปรึกษากับคณะที่ปรึกษา สถาบันทิวา หรือเครือข่ายภาคี และนำข้อเสนอแนะดังกล่าวไปปรับปรุงพัฒนา ในการสร้างความเป็นไปได้และมีความคุ้มค่าในทางปฏิบัติต่อไป


















ร่วมแสดงความคิดเห็น