เมื่อพูดถึงย่านท่องเที่ยวสุดฮิปของเมืองเชียงใหม่ ร้อยทั้งร้อยต้องนึกถึงถนนนิมมานเหมินท์ ถนนสายฮิปสเตอร์ที่อยู่คู่ชาวเชียงใหม่หลายทศวรรษ แต่หากย้อนไปในอดีต ถนนสายนี้ไม่ได้คึกคักเหมือนสมัยนี้ แทบไม่น่าเชื่อว่า ถนนที่เคยเงียบเหงาในวันวาน จะกลายเป็นถนนสายเศรษฐกิจที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ได้ ด้วยศิลปะ!!
ย้อนไปเมื่อทศวรรษ 2500 เมื่อตระกูลนิมมานเหมินท์ ครอบครัวเศรษฐีและนักการเมืองท้องถิ่นได้มอบที่ดินเชิงดอยสุเทพ เพื่อก่อสร้างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยภูมิภาคแห่งแรกของประเทศไทย ถนนนิมมานเหมินท์จึงได้ถือกำเนิดขึ้นจากการตัดถนนผ่านที่ดินดังกล่าว เพื่อเชื่อมถนนซุปเปอร์ไฮเวย์กับกองบิน 41 ก่อนที่เวลาต่อมา ถนนสายนี้จะกลายเป็นหมู่บ้านจัดสรร
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ถนนสายนี้รุ่งเรืองขึ้นมา เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 2530 – 2540 เมื่อเกิดวัฒนธรรม Street Culture ในย่านนิมมาน โดยมีสาเหตุจากการวางผังซอยแบบตารางในสมัยที่ยังเป็นหมู่บ้านจัดสรร ทำให้ผู้อยู่อาศัย สามารถเดินเท้าไปมาระหว่างซอยได้ง่าย จนเกิดโครงข่ายวัฒนธรรมย่อยหลายกลุ่มบนถนนสายนี้ โดยเฉพาะชุมชนศิลปินอิสระ ในซอยนิมมานเหมินท์ 1 อันเต็มไปด้วย Home Studio และ Art Gallery เล็กๆ จากศิลปินหลายราย
จนกระทั่งเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 ส่งผลให้เหล่าศิลปินในชุมชนซอย 1 ต้องรวมตัวหาพื้นที่จัดแสดงและขายผลงานศิลปะ นำไปสู่การเกิดขึ้นของ NAP หรืองานนิมมาน ซอย 1 เฟสติวัล เทศกาลศิลปะชื่อดังของเชียงใหม่ ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2542 กลายเป็นหมุดหมายสำคัญที่เปลี่ยนถนนสายนี้ให้เป็นศูนย์กลางศิลปะในเวลาต่อมา
นอกจากงาน NAP ที่จัดขึ้นทุกปีแล้ว กลุ่มศิลปินในนิมมาน ยังเปิดร้านกาแฟเพื่อหารายได้เพิ่ม และรองรับผู้ที่เดินทางมาชมงานศิลปะและพักผ่อนหย่อนใจ ประกอบกับการเกิดขึ้นของคอมมิวนิตี้มอลล์ในบิรเวณนี้ ทำให้เกิดพลวัตร้านกาแฟขึ้นบนถนนนิมมาน เห็นได้จากการมาของร้านกาแฟวาวี และสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ แฟรนไชส์ร้านกาแฟชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ที่มาเปิดสาขาบนถนนนิมมาน
สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ ในฐานะถนนสายศิลปะ และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2562 ที่ดินบนถนนสายนี้มีราคาเริ่มต้นสูงถึงตารางวาละ 150,000 บาท จากหมู่บ้านจัดสรรในอดีต กลายเป็นย่านท่องเที่ยวสุดฮิป สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของการพลิกเมืองด้วยศิลปะ
ที่มา : Becommon
ร่วมแสดงความคิดเห็น