โหนกแก้มเป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของโครงหน้า ที่จะสร้างความมีมิติบนใบหน้า สำหรับคนที่โหนกแก้มขนาดพอดีเข้ากับในหน้าก็อาจจะทำให้ใบหน้าโดยรวมทั้งหมดดูสวยได้ แต่สำหรับบางคนที่มีปัญหาโหนกแก้มสูง โหนกแก้มใหญ่จนเห็นได้ชัดอาจเสียความมั่นใจได้ เพราะการมีโหนกแก้มที่ชัดจะทำให้ส่วนกลางของใบหน้าดูบานโดยเฉพาะเวลายิ้ม และทำให้ใบหน้าโดยรวมดูแข็ง เป็นสัดส่วนใบหน้าไม่สมดุล เกิดความกังวลไปต่าง ๆ นา ๆ จนต้องพึ่งการทำศัลยกรรมลดโหนกแก้มนั่นเอง
ทำไมต้องลดโหนกแก้ม
มาตรฐานของการมีโครงหน้าสวยสมบูรณ์แบบ ต้องพิจารณาองค์ประกอบของโครงหน้า 3 ส่วน คือ โหนกแก้ม กราม และคาง ให้มีสัดส่วนที่สมดุลกัน เนื่องจากหากมีส่วนใดส่วนหนึ่งของใบหน้าที่ขาดความสมดุลกับส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะโหนกแก้ม ก็อาจจะทำให้ใบหน้าดูแข็ง ดูดุ ดูมีอายุมากเกินอายุจริง ซึ่งการลดโหนกแก้มจะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวมีมิติมากยิ่งขึ้น ทั้งจากด้านหน้าและด้านข้าง
การลดโหนกแก้มเหมาะกับใครบ้าง
1. เหมาะกับคนที่มีปัญหาโหนกแก้มมีสูง หรือคนที่ยิ้มและหน้าดูบาน
2. เหมาะกับคนที่มีโหนกแก้มยื่นออกไปด้านหน้าหนือยื่นออกไปด้านข้าง
3. เหมาะกับคนที่มีโหนกแก้มใหญ่ เห็นโหนกแก้มชัดทั้งจากด้านหน้าและด้านข้าง
4. เหมาะมีปัญหาแก้มและขมับดูตอบ เนื่องจากโหนกแก้มชัด
การผ่าตัดลดโหนกแก้มมีกี่เทคนิค แต่ละเคนนิคมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง
การผ่าตัดศัลยกรรมลดโหนกแก้ม มีด้วยกัน 2 วิธีหลักๆที่ศัลยแพทย์นิยมใช้ ได้แก่
1. การกรอลดโหนกแก้ม
เป็นการผ่าตัดด้วยเทคนิคการกรอกระดูก หรือ เหลากระดูกบริเวณโหนกแก้ม เป็นการลดโหนกแก้มที่มีมีขนาดไม่ใหญ่มาก ต้องการการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย โดยศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลผ่าตัดจากในช่องปาก หลังจากนั้นก็จะใช้เครื่องมือทางการแพทย์กรอลงไปที่กระดูกโหนกแก้มเพื่อทำการลดขนาดและลดความสูงของโหนกแก้มในส่วนที่ไม่ต้องการออก จากนั้นก็ทำการเย็บปิดปากแผล
ข้อดี แผลจากการผ่าตัดทั้งหมดจะอยู่ในช่องปาก จึงไม่มีรอยแผลให้เห็นจากด้านนอก
ข้อเสีย ไม่สามารถปรับตำแหน่งความสูงของโหนกแก้มได้ และทำได้เฉพาะกับเคสที่โหนกแก้มไม่ใหญ่มากเพราะลดขนาดโหนกแก้มได้เฉพาะแค่ด้านข้างเท่านั้น
2. ผ่าตัดลดโหนกแก้ม
เป็นการผ่าตัดโดยการใช้เครื่องมือตัดกระดูกบริเวณด้านข้างโหนกแก้มแบบ 45 องศา ให้เป็นรูปตัว L ควบคู่กับการเลื่อนกระดูกโหนกมาข้างหน้าบริเวณแก้มลูกส้ม โดยการเปิดแผลบริเวณบริเวณไรผมหน้าหูและกรีดเปิดแผลในช่องปาก จากนั้นใช้เครื่องมือตัดกระดูกบริเวณด้านข้างออก แล้วปรับเลื่อนกระดูกให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และเชื่อมต่อกระดูกเข้าหากันด้วยสกรู เย็บปิดแผลบริเวณไรผม ซึ่งเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากในประเทศเกาหลี
ข้อดี ช่วยปรับให้โหนกแก้มดูเล็กลง ช่วยลดความกางของโหนกแก้ม และช่วยเพิ่มมิติแก้มลูกส้มทำให้ใบหน้าดูเด็กลง
ข้อเสีย เป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องทำโดยศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์และเป็นศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกใบหน้าเท่านั้น
ขั้นตอนการผ่าตัดยุบโหนกแก้มที่เกาหลี
1. หาข้อมูลโรงพยาบาลศัลยกรรมเฉพาะทางที่น่าเชื่อถือ และหาข้อมูลของศัลยแพทย์ (หากไม่มั่นใจสามารถปรึกษาเอเจซี่ศัลยกรรมได้)
2. ปรึกษาศัลยแพทย์ถึงความต้องการ ศัลยแพทย์จะทำการประเมินอย่างละเอียดและบอกแนวทางการผ่าตัด พร้อมดีไซน์รูปหน้าให้เหมาะกับคนไข้
3. คนไข้ทำ CT Scan เพื่อให้ทราบถึงตำแหน่งของเส้นประสาท จากนั้นทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด
4. ศัลยแพทย์ทำการวางแผนการรักษาร่วมกับคนไข้อีกครั้งก่อนเข้าห้องผ่าตัด จากนั้นวิสัญญีแพทย์จะทำการประเมินการใช้ยาสลบให้เหมาะสมกับคนไข้แค่ละเคส
5. ศัลยแพทย์จะใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดลดโหนกแก้ม
1. งดรับประทานยาหรือวิตามินที่มีผลต่อการละลายลิ่มเลือด เช่น Aspirin, Ibuprofen, vitaminE vitamin C, ใบแปะก๊วย โสม พิมพ์โรส และน้ำมันปลา ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้มีเลือดออกมากในระหว่างการผ่าตัด และทำให้มีอาการบวมช้ำมากกว่าปกติ
2. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และงดสูบบุรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
3. งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 8 ชั่วโมง (รวมถึงหมากฝรั่งและลูกอม)
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดลดโหนกแก้ม
1. หลังการผ่าตัดให้ประเย็นบ่อยๆในช่วง 1-3 วันแรก ให้เลือดภายในหยุดไหล และช่วยให้ยุบบวมได้ไวขึ้น
2. นอนยกศีรษะสูงในช่วง 1 สัปดาห์แรก เพื่อไมให้เลือดไหลเวียนขึ้นบริเวณหน้ามากเกินไป ถือเป็นการลดบวมไปในตัว
3. หลังจากการผ่าตัดประมาณ 1-2 สัปดาห์ ประคบอุ่นเพื่อให้รอยเขียวช้ำหายเร็วขึ้น
4. ทานยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ ลดบวม ตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
5. ระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนบริเวณโหนกแก้ม ในช่วงเวลา 3-4 สัปดาห์แรก
ลดโหนกแก้มด้วยเทคนิคเกาหลีVSลดโหนกแก้มเทคนิคไทยต่างกันยังไง
การผ่าตัดลดโหนกแก้มด้วยเทคนิคเกาหลี สามารถลดโหนกแก้มได้มากกว่าลดโหนกแก้มเทคนิคไทย เนื่องจากเทคนิคเกาหลีจะมีการตัดและเลื่อนย้ายกระดูกโหนกแก้ม ควบคู่กับการกรอกระดูกโหนกแก้มเพื่อลดความหนาของกระดูกโหนกแก้ม และมีการเลื่อนกระดูไปด้านหน้าให้เป็นแก้มส้ม เพื่อเพิ่มมิติให้กับใบหน้า อีกทั้งเทคนิคนี้ยังจะช่วยให้ใบหน้าดูเด็กลง
ในขณะที่เทคนิคในไทยจะทำการกรอกระดูกด้านข้างเพื่อลดความหนาของกระดูกเพียงอย่างเดียว และศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดด้วยเทคนิคเกาหลีก็ยังมีไม่มาก อีกทั้งสไตล์เทคนิคการผ่าตัดของศัลยแพทย์ยังไม่เหมือนกับที่เกาหลี จึงทำให้ได้ผลลัพธ์ของการผ่าตัดที่ยังคงมีความแตกต่างกัน
แนะนำโรงพยาบาลศัลกรรมลดโหนกแก้ม
SEOULFACE21 เป็นคลินิคศัลยกรรมที่มีประสบการณ์มามากกว่า 25 ปี โดย เปิดทำการครั้งแรกปี 1997 ในชื่อว่า Gyalumhan ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ SEOULFACE21 ในปัจจุบัน ทำการผ่าตัดปรับโครงหน้า ลดโหนกแก้มโดย Dr. Kim Nam Ho ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์การปรับโครงหน้าโดยตัดกระดูก และมีการนำเอาหลายเทคนิค เข้ามาปรัใล้ร่วมกับการผ่าตัด เพื่อให้ใบหน้ามีความเรียวมากที่สุด จึงทำให้ที่โรงพยาบาลแห่งนี้มีชื่อเสียงมากที่ประเทศเกาหลี นอกจากนี้ที่ SEOULFACE21 ยังไม่เคยมีประวัติเคสอุบัติเหตุเสียชีวิต หรือติดเชื้อหลังการผ่าตัด (สามารถดูได้จาก certificate ที่แสดงไว้ได้เลย)
EU Maxillofacial & Dental Center โรงพยาบาลเฉพาะทางเรื่องโครงหน้าที่มีชื่อเสียงมากในประเทศเกาหลี ที่ทำการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ชื่อดังอย่าง คุณหมอคิม Dr.Kim Jong Yun และ Dr.Shin Hee Jin ผู้ที่อยู่เบื้อหลังการผ่าตัดปรับโครงหน้าและขากรรไกรให้กับคนไข้ในรายการ Let me in เรียลลิตี้โชว์ ที่เปลี่ยนใบหน้าของสาวๆให้สวยขึ้นได้อย่างกับคนละคน ด้วยประสบการณ์มากกว่า 13 ปี ผลงานของผ่าตัดคนไข้ทุกเคสเป็นที่น่าพอใจ โดยศัลยแพทย์จะผ่าตัดคนไข้เพียง 1-2 เคสต่อวันเท่านั้น
Banobagi Hospital เป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมครบวงจรที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2000 จากการรวมตัวกันของศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาจากมหาวิทยลัยโซล (มหาวิทยาลัยรัฐที่มีชื่อเสียงในด้านการศัลยกรรมอันดับ 1 ของเกาหลี) ที่มีการแบ่งแผนกศัลยกรรมออกอย่างชัดเจน เพื่อให้คนไข้ได้รับการผ่าตัดจากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรมปรับโครงหน้า ยกกระชับ หน้าอก และกระชับสัดส่วน และเพรียบพร้อมไปด้วยเครื่องมือที่ใช้ในห้องผ่าตัดที่ครบครัน และเครื่องมือทางการแพทย์ทันสมัย ภายใต้การดูแลจากวิสัญญีแพทย์แบบ 1:1
รีวิวการลดโหนกแก้มด้วยเทคนิคเกาหลี
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.srsurgeryreview.com/7วิธี-ลดโหนกแก้ม-แบบธรรมชาติ/
ร่วมแสดงความคิดเห็น