การบำบัดโรคซึมเศร้า แมวอย่างเราช่วยได้!

หากใครเป็นคนที่เลี้ยงสัตว์แล้วรักสัตว์เลี้ยงมากๆ จะรู้ว่าแค่การได้อยู่ใกล้ก็มีความสุขมากแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่สัตว์เลี้ยงจะช่วยบำบัด ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะโรคซึมเศร้าได้

ภาวะซึมเศร้า จัดเป็นปัญหาภาระโรคที่ทางองค์การอนามัยโลกและมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ทำการศึกษาว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ปัญหาโรคซึมแศร้าเป็นภาระโรคอันดับสองรองมาจากปัญหาหัวใจและหลอดเลือด โดยผลกระทบทางเศรษฐกิจ จะสร้างภาระต่อการพัฒนาประเทศอย่างใหญ่หลวง เพราะผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ไม่ว่าวัยใดเมื่อป่วยแล้ว จะส่งผลสืบเนื่องทางการแพทย์ สังคม และการเงิน ที่รุนแรง สำหรับผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคนี้ รวมถึงผู้ดูแล มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่าเป็นโรคร่วมทางการแพทย์ที่ทำให้สามารถลดอายุขัยและภาวะแทรกซ้อนทางร่างกายอื่นๆ ที่มาพร้อมกับภาวะซึมเศร้าที่ไม่ได้รับการรักษาโดยเฉพาะในวัยผู้สูงอายุ ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายทางการเงินทางอ้อมให้กับสังคม ส่วนที่ ความทุกข์ส่วนบุคคลจะส่งผลทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้เป็นปกติสุข เป็นต้นเหตุนำไปสู่โรคเรื้อรังทางกายเช่น เบาหวาน ความดัน ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายที่สูญเสีย และส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางเศรษฐกิจของประเทศไปอย่างมหาศาล

มีการสำรวจจากผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและโรคเครียดนั้นเพิ่มขึ้นมาก แม้ว่าการรักษาส่วนใหญ่จะเป็นการพึ่งยา แต่ผลวิจัย การเลี้ยงสัตว์อย่าง “แมว” ก็สามารถช่วยบำบัดรักษา และช่วยปรับสภาวะอารมณ์ของมนุษย์คนเราได้เหมือนกัน

การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นสุนัข หรือ แมว สามารถช่วยเยียวยาผู้ป่วยได้จริง แม้กระทั่งผู้สูงอายุ ที่มีการแนะนำให้ผู้สูงอายุนั้นเลี้ยงสัตว์เลี้ยง เพื่อใช้บรรเทาความเหงาและป้องกันโรคซึมเศร้า

ดร.คาเรน เอล์เลน (Karen Allen) แห่งมหาวิทยาลัยบอสตัน ได้ทำการวิจัยและประเมินผลเกี่ยวกับ ผลกระทบที่เกิดจากภาวะทางสังคมต่ออัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต ที่เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดความเครียด จึงได้มีการทดลองกับกลุ่มคน 2 กลุ่มขึ้นมา กลุ่มแรกรักษาด้วยยาเพียงอย่างเดียว ส่วนกลุ่มที่ 2 ก็รักษาด้วยยาเช่นกัน แต่ก็จะรักษาควบคู่ไปกับการเลี้ยงแมว หลังการรักษา 6 เดือน พบว่า กลุ่มที่เลี้ยงแมวไปพร้อมกับการทานยามีอัตราการเต้นหัวใจ และความดันโลหิตน้อยลง เมื่อเทียบกับผู้ที่รักษาด้วยยาเพียงอย่างเดียว

ข้อดีของการเลี้ยงแมว

1.แมวนั้นรักเจ้าของโดยไม่มีเงื่อนไข เลี้ยงแมวแล้วทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เป็นเพื่อนยามเหงา ไม่ปล่อยให้ความเครียดนั้นมีอิทธิพลสร้างกำแพงเพื่อดึงเราออกจากสังคม

2.เพิ่มความรับผิดชอบทำให้เห็นคุณค่าในตัวเอง การเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยง เป็นความรับผิดชอบเล็กๆ น้อยๆ ในการดูแลแมว จะทำให้คุณเห็นความสำคัญในตัวเองมากขึ้น

3.พาแมวไปเดินเล่น เพื่อสร้างสุขภาพทั้งกายและใจให้ดีขึ้น กิจกรรมนี้ถือว่าได้เป็นการออกกำลังกายไปในตัว ทำให้สุขภาพร่างกายนั้นแข็งแรง ช่วยให้ลดความเครียดได้ดี และยังช่วยให้สภาพจิตใจดีขึ้นอีกด้วย

4.การได้สัมผัสแมวจะช่วยให้ปรับอารมณืได้ดีขึ้น ถ้าได้ลูบไล้บนตัวแมว ลูบไล้บนขนนุ่มๆ จะช่วยทำให้ผ่อนคลาย มีอ้างอิงจากผลวิจัยผู้ป่วยโรคเอดส์ได้เลี้ยงสัตว์ ประเมินว่า พวกเขารู้สึกทุกข์จากอาการโรคซึมเศร้าน้อยลง

5.แมวช่วยรักษาระดับความดันโลหิตได้เป็นปกติดีกว่าการพึ่งยา แม้ในทางการแพทย์จะใช้ยาที่ช่วยลดความดันโลหิต แต่ผลการทดลองข้างต้น จาก ดร.คาเรนนั้น เห็นได้ชัดว่า การเลี้ยงสัตว์ช่วยทำให้ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจนั้นต่ำลง

6.สร้างความสัมพันธ์ทางสังคม เมื่อคุณได้พาแมวออกไปข้างนอก และได้พบเจอกับสังคมใหม่ๆ จากผู้ที่เลี้ยงแมวด้วยเหมือนกัน หรือผู้คนรอบข้าง ก็จะทำให้เกิดการพูดคุยและได้เปิดโอกาสให้ตัวเองได้สานสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้อย่างดี

7.แมวรับฟังปัญหาได้ดีกว่าคน บางครั้งการได้ระบายความเศร้าหรือปลดปล่อยอะไรออกมาให้กับคนฟังก็ถือว่าช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้นแล้ว แต่อาจจะน้อยกว่าแมว ซึ่งถ้าได้มาระบายความเศร้ากับแมวนั้น มันไม่ได้มีการโต้ตอบหรือตัดสินอะไรคุณเลย และยังรับฟังอย่างตั้งใจ ซึ่งบางทีอาจจะทำให้สบายใจกว่าการได้พูดคุยกับคนในบางครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมสุขภาพจิต, Independent, The Washington Post

ร่วมแสดงความคิดเห็น