การเปิดใช้สัญญาณไฟเป็นการสื่อสารให้ผู้ร่วมใช้เส้นทางทราบทิศทางการเดินรถ หากใช้ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ อาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรปฏิบัติในการใช้สัญญาณไฟให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ดังนี้
ไฟหน้า
- เปิดใช้สัญญาณไฟหน้าเมื่อฝนตกหรือทัศนวิสัยไม่ดี จะช่วยให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น และผู้ขับรถคันอื่นมองเห็นรถเราได้จากระยะไกล
ไฟสูง - ใช้เมื่อขับรถผ่านเส้นทางที่มืดมาก และเปลี่ยนเป็นไฟต่ำเมื่อมีรถวิ่งสวนทางมา เพื่อไม่ให้แสงไฟรบกวนสายตาผู้ขับรถคันอื่น
- ใช้ส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ขับรถคันอื่นเพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะบริเวณทางโค้งหักศอก ทางข้ามขึ้นเนิน มุมอับ
การขับรถในช่วงเวลากลางคืน
ไฟหรี่ - หลีกเลี่ยงการเปิดใช้สัญญาณไฟหรี่ เพราะแสงไฟสว่างไม่เพียงพอที่จะทำให้มองเห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจน
ไฟตัดหมอก - ใช้เมื่อขับรถผ่านเส้นทางที่มีทัศนวิสัยไม่ดี อาทิ ฝนตกหนัก หมอกควันปกคลุม จะช่วยให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น และผู้ขับรถคันอื่นมองเห็นรถเราได้ในระยะไกล
- ใช้ในช่วงกลางคืนหลังฝนตกหรือถนนมีน้ำเฉอะแฉะ จะช่วยลดการสะท้อนของแสงไฟหน้ารถกับพื้นถนน ทำให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น
ข้อควรระวัง
ผู้ขับขี่ควรปิดไฟตัดหมอกเมื่อมีรถขับสวนทางมาในระยะ 150 เมตร เพราะแสงไฟตัดหมอกส่องสว่างได้ในระยะไกล ทำให้ผู้ขับรถคันอื่นสายตาพร่ามัว ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
ไฟฉุกเฉิน - ใช้กรณีประสบอุบัติเหตุหรือรถเสีย โดยรถจอดกีดขวางช่องทางจราจร ริมไหล่ทางหรือบริเวณที่แสงสว่างน้อย เพื่อเตือนให้ผู้ขับรถคันอื่นเพิ่มความระมัดระวัง
- ห้ามใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม อาทิ ขับผ่านสี่แยกที่ไม่มีสัญญาณไฟ หยุดหรือจอดรถในที่ห้ามจอด ขับผ่านเส้นทางที่มีทัศนวิสัยไม่ดี ขับรถย้อนศร เพราะอาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้ร่วมใช้เส้นทาง ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
ทั้งนี้ การเรียนรู้การเปิดใช้สัญญาณไฟอย่างถูกวิธี รวมถึงการตรวจสอบสัญญาณไฟให้พร้อมใช้งาน จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

ร่วมแสดงความคิดเห็น