คุณเคยรู้สึกอารมณ์ขึ้นสุดลงสุดราวกับรถไฟเหาะไหม? บางครั้งรู้สึกมีพลัง มั่นใจ ทำอะไรได้ทุกอย่าง แต่ไม่นานกลับรู้สึกหมดแรง เศร้า หมดหวังโดยไม่มีสาเหตุ หากคุณหรือคนใกล้ชิดเคยเผชิญกับอารมณ์สุดโต่งเช่นนี้ อาจเป็นสัญญาณของอาการไบโพล่าเบื้องต้น ซึ่งเป็นภาวะทางอารมณ์ที่พบได้มากกว่าที่คิด

ไบโพล่าคืออะไร ?
ก่อนไปดูอาการไบโพล่าเบื้องต้น ต้องรู้ก่อนว่าโรคไบโพล่า (Bipolar Disorder) หรือโรคอารมณ์สองขั้ว เป็นความผิดปกติของอารมณ์ที่ทำให้ผู้ป่วยมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์อย่างสุดขั้ว ระหว่าง “ภาวะอารมณ์คลุ้มคลั่ง (mania)” กับ “ภาวะซึมเศร้า (depression)” โดยอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงนั้นไม่ใช่เพียงแค่ “อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ” ตามธรรมชาติ แต่เป็นระดับที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน และความสัมพันธ์กับคนรอบตัวอย่างมีนัยสำคัญ
อาการไบโพล่า ระดับเบื้องต้น
1. ภาวะอารมณ์คลุ้มคลั่ง (Mania หรือ Hypomania)
- พูดเร็ว พูดมาก พูดไม่หยุด
- มีพลังงานล้นเหลือ นอนน้อยแต่ไม่รู้สึกง่วง
- มีความมั่นใจในตนเองมากเกินไป เช่น คิดว่าตนเองเก่งกว่าคนอื่น
- ตัดสินใจโดยไม่ยั้งคิด เช่น ใช้จ่ายเงินเกินตัว เสี่ยงทางเพศ หรือมีพฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ
- อารมณ์ฉุนเฉียว หากมีคนขัดใจหรือขัดความคิด
- Hypomania เป็นภาวะที่อ่อนกว่าคลุ้มคลั่ง ผู้ป่วยอาจยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด และมักไม่รู้ตัวว่าตนเองผิดปกติ
2. ภาวะซึมเศร้า (Depression)
- รู้สึกเศร้า ว่างเปล่า หรือหมดหวังตลอดเวลา
- ขาดพลังในการทำกิจกรรมต่างๆ แม้แต่สิ่งที่เคยชอบ
- นอนมากหรือนอนไม่หลับ
- รู้สึกผิด ไม่มีคุณค่า หรือโทษตัวเองโดยไม่มีเหตุผล
- มีความคิดอยากตาย หรือทำร้ายตัวเอง
- อาการเหล่านี้อาจเกิดสลับกันเป็นรอบ หรือบางคนอาจประสบภาวะ “ผสม (Mixed Episodes)” คือมีทั้งอาการซึมเศร้าและอารมณ์คลุ้มคลั่งในเวลาใกล้เคียงกัน
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์ ?
หากคุณหรือคนใกล้ชิดเริ่มมีอาการไบโพล่าเบื้องต้นอยู่บ่อยครั้ง หรืออารมณ์แปรปรวนจนรบกวนชีวิตประจำวัน ควรรีบพบจิตแพทย์เพื่อรับการประเมินอย่างมืออาชีพ การวินิจฉัยไบโพล่าจำเป็นต้องอาศัยการซักประวัติอย่างละเอียด ร่วมกับการสังเกตพฤติกรรมในระยะเวลาหนึ่ง
ไบโพล่ารักษาได้หรือไม่ ?
แม้โรคไบโพล่าจะเป็นโรคเรื้อรัง แต่สามารถควบคุมอาการได้ด้วยการใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่กับการบำบัดจิตใจ เช่น การทำจิตบำบัด (Psychotherapy) การดูแลสุขภาพ การนอนหลับให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น แอลกอฮอล์ และมีระบบสนับสนุนที่ดีจากคนรอบข้าง
โรคไบโพล่าไม่ใช่ความผิดปกติที่ควรมองข้าม เพราะอาจส่งผลกระทบต่อทุกมิติของชีวิต แต่หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพได้ อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ เพราะการยอมรับและเข้าใจ คือก้าวแรกของการเยียวยาที่แท้จริง
หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์อย่างผิดปกติ มีสัญญาณของอาการไบโพล่าเบื้องต้นอย่ารอให้สายเกินไป การพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญอาจช่วยเปลี่ยนชีวิตได้ทั้งชีวิต
ร่วมแสดงความคิดเห็น