การทำจมูกถือเป็นศัลยกรรมที่คนจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะมีกลุ่มคนจำนวนมากที่ต้องการจะแก้จมูก โดยเฉพาะคนที่เสริมจมูกมาแล้วมีปัญหา หลายคนจึงนึกถึงการแก้จมูกเกาหลีเพื่อจบปัญหา เนื่องจากศัลยแพทย์ที่เกาหลีมีเทคนิคที่หลากหลายสามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด ซึ่งในบทความนี้เราจะพาดูกันว่าปัญหาจมูกแบบไหนควรได้รับการแก้ไขมากที่สุด และสามารถแก้ไขด้วยวิธีอะไรได้บ้าง
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังการเริมจมูก
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการเสริมจมูกนั้นไม้ได้ให้ผลลัพธ์ที่สวยถูกอกถูกใจหรือสมบูรณ์100% เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเมื่อเสริมจมูกมาแล้วอาจมีเหตุจำเป็นให้ต้องมีการแก้ไข ซึ่งทรงจมูกที่เสริมมาแล้วควรได้รับการแก้ไขได้แก่
1. ทรงจมูกงุ้มลงกว่าเดิม
สาเหตุที่พบได้บ่อยหลังการเสริมจมูก จนเป็นสาเหตุของการที่จะต้องแก้ไขคือ จมูกงุ้มลงกว่าเดิมหรือยาวขึ้นกว่าเดิม ซึ่งมีสาเหตุก็มาจากซิลิโคนไหล เคลื่อนตัวลงมาที่บริเวณปลายจมูก โดยเกิดจากการที่ซิลิโคนมีความหนาและรัดตัวมากขึ้น ทำให้เกิดแรงดันจนซิลิโคนไหลลงมานั่นเอง
2. ปลายจมูกมีรอยบุ๋ม
การเกิดรอยบุ๋มหรือร่องที่ปลายจมูก เกิดผิวหนังด้านบนปลายจมูกยึดกับซิลิโคนจนทำให้เกิดเป็นพังผืด จนทำให้เนื้อจมูกกับซิลิโคนรัดกันมากขึ้น จนทำให้เห็นปลายจมูกเป็นรอยบุ๋มลงไปอย่างชัดเจน
3. ปลายจมูกอักเสบติดเชื้อ
สาเหตุของการเกิดสิวหัวช้างที่ปลายจมูกมักมาจากการอักเสบหรือติดเชื้อของผิว เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งต้องใช้ความระวังเป็นพิเศษเพราะสิวหัวช้างหลังการเสริมจมูก มีสิทธิ์ทำให้ผิวบริเวณปลายจมูกบางลงจนทำให้ซิลิโคนทะลุออกมาได้
4. มีอาการเบี้ยวเอียง
หลังจากเสริมจมูกมาได้สักระยะหนึ่งหากพบว่ารูปทรงของจมูกมีการเบี้ยวเอียง ต่างไปจากที่เคยเป็นหรือบางรายอาจมีอาการบวมร่วมด้วย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการใส่ซิลิโคนในชั้นผิวที่ตื้นไป หรือมีการบีบรัดซิลิโคนจนทำให้จมูกมีอาการเบี้ยวเอียงได้
5. ปลายจมูกบางใส
จมูกปลายใสหรือปลายจมูกสะท้อนแสง สังเกตุได้จากการลูบปลายจมูกเบาๆ หากมีความรู้สึกเสียวแปลบๆ หรือเวลาส่องกระจกแล้วรู้สึกว่าปลายจมูกสะท้อนมันวาวผิดปกติ ให้ตั้งข้อสันนิษฐานได้เลยว่าเนื้อบริเวณปลายจมูกเริ่มบางลง และยิ่งเห็นเป็นสีขาวๆ ห้ามไปแตะ จับ หรือดึงโดยเด็ดขาด หากใครมีจมูกลักษณะแบบนี้แนะนำให้รีบแก้จมูกอย่างเร่งด่วนก่อนที่จะสายเกินไป
ทำไมคนถึงนิยมไปทำจมูกที่เกาหลี
จะเห็นได้ว่าคนที่เสริมจมูกแล้วไม่ชอบทรงหรือจมูกมีปัญหาจะนิยมไปแก้ไขที่เกาหลี นั่นเป็นเพราะเหตุผลหลักๆดังนี้
1. ความเชี่ยวชาญของแพทย์ อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศเกาหลีเป็นต้นกำเนิดของการทำศัลยกรรม ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านการทำศัลยกรรมจมูกโดยเฉพาะ
2. เทคนิคที่ใช้ เกาหลีเป็นประเทศต้นกำเนิดของการแก้ไขจมูกแบบโอเพ่น ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำให้เห็นโครงสร้างด้านในของจมูกได้ทั้งหมด นอกจากนี้ ศัลยแพทย์เกาหลียังนิยมใช้ส่วนประกอบของร่างการแทนการใช้ซิลิโคน เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งแปลกปลอมและลดความเสี่ยงต่อการอักเสบได้เป็นอย่างดี
3. ความปลอดภัย ก่อนทำการเสริมจมูกหรือแก้ไขจมูกทุกครั้ง คนไข้จะได้รับการ CT Scan เพื่อให้เห็นโครงสร้างด้านในทั้งหมดของจมูก ทำให้ศัลยแพทย์ทำการวางแผนการผ่าตัดแก้ไขปัญหาได้อย่างแม่นยำ
4. การดูแลหลังการผ่าตัด ที่เกาหลีมีการดูแลนัดติดตามผลการผ่าตัดอย่างใกล้ชิด หลังการผ่าตัดคนไข้จะต้องนอนรอดูอาการที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 1-2 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆหลังการผ่าตัด
5. บวมช้ำน้อย และแผลหายไว ด้วยเทคนิคการผ่าตัดที่มีความระมัดระวังเป็นพิเศษของศัลยแพทย์จึงทำให้คนไข้มีอาการบวมช้ำน้อย นอกจากนี้ที่เกาหลียังให้บริการฉายแสงลดบวม หรือมีการนำเครื่อง O2 Hyperbaric Chamber หรือมาใช้เพื่อให้คนไข้ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้แผลหายไวขึ้น
แนะนำคลินิกเสริมจมูกที่คนเกาหลีให้ความนิยม
ที่ประเทศเกาหลีมีสถานพยาบาลศัลยกรรมจมูกหลายแห่งที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักของคนไทยเนื่องจากมีการทำการตลาดในบ้านเรา แต่วันนี้เราจะมาแนะนำคลินิก 5 เฉพาะทางที่ได้รับความนิยมจากคนเกาหลีจริงๆ มีดังนี้
1. SU:I Plastic Surgery
คลินิกเฉพาะทางที่เชี่ยวชาญด้านการแก้จมูก ตา และยกกระชับ โดยศัลยแพทย์เฉพาะทาง Dr.Ahn Tae Joo ที่นิยมแก้ไขจมูกด้วยเทคนิคการใช้เนื้อเยื่อตัวเอง เช่นกระดูกอ่อนหลังหู เนื้อเยื่อก้นกบ กระดูกอ่อนซี่โครง เป็นต้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของการแก้จมูกที่ปลอดภัยดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้ซิลิโคนตั้งแต่สันถึงปลายจมูก
2. Hanabi Rhinoplasty Clinic
เป็นอีกหนึ่งคลินิกเฉพาะทางด้านจมูกที่มีชื่อเสียงในเกาหลี โดยมีศัลยแพทย์ด้าน ENT Specialist เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขปัญหาจมูกผิดรูป จมูกอักเสบทะลุ จมูกคดแต่กำเนิด และเคสCleft lip nose deformity ที่ Hanabi Rhinoplasty Clinic แห่งนี้ก็สามารถแก้ไขได้เช่นกัน
3. Note Plastic Surgery
Note Plastic Surgery เป็นคลินิกศัลยกรรมที่มีทีมแพทย์โด่งดังมาจากรายการเลทมีอินไทยแลนด์ ซึ่งมีจุดเด่นคือการแก้ไขจมูกให้มีทรงสโลปนิดๆปลายพุ่งหน่อยๆ ตามสไตล์ของสาวเกาหลีทำให้ที่คลินิกแห่งนี้เป็นที่หมายปองในการแก้ไขจมูกของสาวๆบ้านเราค่ะ
ข้อแตกต่างของการเสริมจมูกที่ไทยกับเกาหลีต่างกันอย่างไร
การเสริมจมูกที่ไทย ส่วนมากที่ไทยจะนิยมเสริมจมูกด้วยซิลิโคนตั้งแต่สันจมูกจนถึงปลายจมูก โดยเหลาซิลิโคนให้มีรูปทรงที่ต้องการ ซึ่งเทคนิคที่ศัลยแพทย์เลือกใช้มักจะเป็นการเสริมแบบ Close Rhinoplasty แต่ก็มีศัลยแพทย์บางท่านที่มีฝีมือและเลือกเทคนิค Open Rhinoplasty ในการเสริมจมูก แต่ก็มักมีราคาที่สูงไม่ต่างจากการเสริมจมูกที่เกาหลี
การเสริมจมูกที่เกาหลี เป็นการเสริมจมูกกับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแบบเฉพาะทาง และมีการทำ CT Scan ก่อนทุกเคส เพื่อให้สามารถเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้ทั้งหมด ซึ่งเทคนิคที่นิยมใช้คือการเสริมจมูกแบบโอเพ่น โดยใช้อวัยวะจากร่างกายของคนไข้เองมาเสริมจมูกแทนการใช้ซิลิโคน เพื่อป้องกันการอักเสบ ติดเชื้อ และลดความเสี่ยงของปลายจมูกทะละที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
เสริมจมูกที่เกาหลีต้องอยู่กี่วัน
หากคนไข้ต้องการเสริมจมูกที่เกาหลีแนะนำให้อยู่จนครบกำหนดอย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้ศัลยแพทย์ได้ทำการตรวจเช็คอาการอย่างละเอียด และตัดไหมให้เรียบร้อยก่อนกลับไทย
ราคาเสริมจมูกที่เกาหลี
การเสริมจมูกเกาหลีจะมีราคาเริ่มต้น 150,000 บาท ไปจนถึง 450,000 บาทขึ้นกับขึ้นความซับซ้อนในแต่ละเคสและวัสดุที่ใช้ โดยราคาแต่ละโรงพยาบาลจะไม่เท่ากัน
การเตรียมตัวก่อนไปเสริมจมูกที่เกาหลี
1. ก่อนอื่นแนะนำให้หาข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาล และศัลยแพทย์ที่มีความเฉพาะทาง
2. นัดคิวกับโรงพยาบาล, จองตั๋วเครื่องบิน, จองที่พัก, ติดต่อล่าม, จองรถรับส่งสนามบินไปยังโรงพยาบาลหรือที่พัก และแลกเงิน สำหรับค่าทำศัลยกรรมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ
3. เก็บกระเป๋าสัมภาระที่จำเป็น และเสื้อผ้าให้เหมาะกับสภาพอากาศ
4. งดอาหารเสริม วิตามิน และยา ตามคำแนะนำของโรงพยาบาล
5. ก่อนการผ่าตัดให้งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง
รูปภาพรีวิวหลังเสริมจมูก
ดูรีวิวและข้อมูลการเสริมจมูกเพิ่มเติมได้ที่: https://www.srsurgeryreview.com/เสริมจมูก-เทคนิคเกาหลี/
ร่วมแสดงความคิดเห็น