กก.4 บก.ปทศ.ตรวจสอบการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำ ลำปาง

ตำรวจ กก.4 บก.ปทศ.ตรวจสอบการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำ ที่ จังหวัดลำปาง

วันที่ 10 มีนาคม 2566 โดยการอำนวยการชอง พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส.สั่งการให้ ร.ต.ต.พนม สารีพันธุ์ รอง.สว.กก 4 บก.ปทส. หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 1 ลำปาง ประสานงานไปยัง นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ นายเจนายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) นายทัศนะ ทิพย์วิชัย หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.14 (แม่ทะ) ผู้ใหญ่บ้าน บ้านนายาบ หมู่ 7 ตำบลหัวเสือ อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง ลงพื้นที่ตรวจสอบ

หลังจากที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ตำรวจ กก.4 บก.ปทส.ได้รับการร้องเรียน ว่าในป่าเหนือหมู่บ้าน ซึ่งเป็นป่าที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติฯได้มีการตัดไม้ทำบลายป่าแผ้วถางป่าเป็นบริเวณกว้างโดยไม่เกรงกลัวกฏหมาย มีการนำเครื่องจักรเช่นรถไถ รถแบ็คโฮเข้ามาแผ้วถางป่าป่าขุดภูเขาปรับแต่งหน้าดิน กานต้นไม้ทำให้ป้าต้นน้ำเสียหายบริเวณกว้าง จึงได้ประสานกำลังในพืท้นที่เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นจากการเข้าตรวจสอบ พบว่ามีรการกระทำผิดจริง

โดยจุดแรกที่พบ อยู่บริเวณลห้วยหนองเมา ป่าต้นน้ำ บ้านนายาบ หมู่ 7 ตำบลหัวเสือ อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง พบเป็นการ กานต้นไม้ห้วงห้ามเช่นประดู่ มะค่า ไม้กระยาเลยหลากหลายชนิด ทั้งต้นไม้ขนาดใหญ่และต้นไม้ที่กำลังเจริญเติบโต ถูกกานลำต้นจนยืนต้นตายไม่ต่ำกว่า 50 ต้น ทั้งในลำห้วยและริมตลิ่งลำห้วยทั้งสองฝั่ง พบร่องรอยรถแบ็คโฮเข้ามาทำทางเดินยข้ามลำห้วยแล้วขึ้นไปยังยอดเขาไปขุดปรับที่ ตัดโค่นต้นไม้ทำให้พื้นที่ดังกล่างโล่งเตียน มีการล้อมรั้วรวดหนาม สร้างกระท่อมที่พัก แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่ตรวยจสอบพบมีการบุกรุกพื้นที่ทั้งหมด 9 ไร่ 3 งาน

นอกจากนี้ยังพบว่ามีแปลงบุกรุกใหม่อีก 1 แปลง เป็นแปลงที่ 2 มีการตัดต้นไม้ทั้งไม่ต่ำกว่า 100 ต้นเหลือแต่ตอ ส่วนไม้ท่อนได้มีการชักลากออกพื้นที่ไปแล้วได้มีการล้อมรั้วรวดหนามเอาไว้และไม่พบตัวผู้กระทำผิด ตรวจสอบพื้นที่ถูกบุกรุกทั้งหมด 3 ไร่ 3 งาน ซึ่งเป็นแปลงบุกรุกใหม่ ส่วนแปลงที่ 3 เป็นแปลงที่อยู่ติดถนนเข้าหมู่บ้าน เป็นเชิงเข้าต้นไม้ถูกตัดโค่นไปไม่ต่ำกว่า 100 ต้นเช่นกัน ตรวจสอบพื้นที่ถูกบุกรุกทั้งหมด 14 ไร่ 2 งาน โดยทั้งหมดอยู่ในเขคป่าสงสงานแห่งชาติป่าแม่จางฝั่งซ้าย รวมพื้นที่ถูกบุกรุกทั้งหมด 26 ไร่ 8 งาน มูลค่าความเสียภาครัฐประมาณ 1,770,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดคืนพื้นที่ทั้งหมดแล้วเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.แม่ทะ เพื่อที่จะสืบสสวนอาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีค่อไป

ทั้งนี้พฤติกรรมการบุกรุกแผ้วถางป่าพบว่าหวังจะครอบครองพื้นที่ป่าอ้างว่าทำกินมายาวนานเพื่อที่จะดำเนินการเรียกร้องขอใช้สิทธิ์ในการใช้พื้นที่ป่า เพื่อหวังทำประโยชน์อย่างอื่น ซึ่งป่าแห่งนี้ถือว่าเป็นป่าต้นน้ำสำคัญในพื้นที่ซึ่งหากยังมีการบุกรุกเข้าป่าเรื่อยๆจะสร้างผลกระทบด้านอื่นๆตามมาเบื้องต้นได้กำชับผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านช่วยเป็นหูเป็นตาแก่เจ้าหน้าที่ หากดพบการกระทำรับแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะเร่งดำเนินการทันที

ร่วมแสดงความคิดเห็น