ข่าวเด่น

คืบหน้า ปลัดจอมแฉเรียกเก็บหัวคิวทำบัตรชมพู ตำรวจให้ประกันสู้คดี รอดนอนคุก อึ้งถูกจับในเรื่องที่ตัวเองเคยออกมาเปิดโปง ด้าน ปปป.เดินหน้าสอบเส้นเงิน กรณีการจับกุมนายบุญญฤทธิ์ ปลัดอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยนายทะเบียนจังหวัด (ทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่) ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 กรณีเรียกรับเงินค่าธรรมเนียมทำบัตรแรงงานต่างด้าวหรือบัตรสีชมพู ล่าสุดวันนี้ ( 1 ก.ค.68) มีรายงานว่าหลังถูกเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. , ป.ป.ท. และ ตำรวจ ปปป. ร่วมกันจับกุมเมื่อวานนี้ พนักงานสอบสวน ปปป. ได้สอบสวนปากคำนานหลายชั่วโมง ก่อนที่จะอนุญาตให้ประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการทางกฏหมาย ขณะที่นายชัยณรงค์ นันตา ปลัดจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ได้รับรายงานในเรื่องนี้แล้ว ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยหรือไม่นั้น กรมการปกครองซึ่งเป็นต้นสังกัดของนายบุญญฤทธิ์จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยในระดับกรมหรือระดับจังหวัด ส่วนการดำเนินคดีอาญาอยู่ในส่วนของตำรวจที่จะดำเนินการ ทีมข่าวย้อนที่มาของฉายา “ปลัดจอมแฉ” โดยก่อนหน้านี้นายบุญญฤทธิ์เคยออกมาเปิดโปงคดีดังและประเด็นที่อยู่ในกระแสสังคมหลายครั้ง ทั้ง กรณีค้ากามแก๊งนกฮูกที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนที่มีข้าราชการมาเกี่ยวข้องในปี 2561 , ดำเนินคดีกับไลฟ์โค้ชชื่อดังกรณีที่มีการเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือไฟป่าที่จังหวัดเชียงใหม่ ในปี 2563 , ออกกวาดล้างจับกุมร้านอาหารรุกลำน้ำแม่สา […]

สุดเถื่อน หนุ่มขี่รถ จยย. กลับบ้าน เจอกระบะจอดติดไฟแดงทางแยกต้นเกว๋น หันไปดูเจอชายในรถไม่พอใจ ลงมากอดคอหาเรื่อง ก่อนเหวี่ยงหมัดเข้าหน้าจนรถล้มแถมเตะซ้ำ พลเมืองดีเข้ามาห้ามขู่ใช้อาวุธ ด้านเจ้าตัวแจ้ง ตร. แต่ยังไม่เจอตัวขอผู้พบเบาะแสแจ้งอีกทาง คลิปภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณทางแยกต่างระดับต้นเกว๋น ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ บันทึกภาพเหตุการณ์ที่ชายวัยรุ่นคนหนึ่งถูกทำร้ายร่างกายขณะขี่รถจักรยนต์มาจอดติดไฟแดงเยื้องกับรถยนต์กระบะ อีซูซุ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขณะที่ต่อมาชายที่นั่งในรถยนต์กระบะ สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น ได้เปิดประตูเดินลงมาจากรถ แล้วตรงเข้ามากอดคอชายหนุ่มที่นั่งขี่รถจักรยานยนต์ ก่อนที่จะมีการพูดคุยกันแล้วชายเสื้อดำกำลังจะเดินกลับขึ้นรถยนต์ แต่แล้วก็หันกลับมาแล้วชกหน้าชายหนุ่มที่นั่งควงรถจักรยานยนต์จนล้มไปกองกับพื้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ แถมชายเสื้อดำคนก่อเหตุรายนี้ยังได้มีการเตะซ้ำ จนกระทั่งต่อมา มีหญิงสาวที่นั่งในรถยนต์กระบะลงมาห้าม และมีพลเมืองดีที่ขับรถมาเห็นเหตุการณ์ช่วยกัน และชายคนดังกล่าวเดินขึ้นท้ายกระบะก่อนที่หญิงสาวที่ลงรถตามมาจะทำการขับรถกระบะคันดังกล่าวออกไปจากที่เกิดเหตุ โดยหลังเกิดเหตุชายหนุ่มผู้เสียหาย ได้ทำการติดตามหลักฐานกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ และได้เข้าทำการแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ พร้อมทั้งนำคลิปเหตุการณ์มาโพสต์ลงในโซเชียล เพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้พบเห็นเบาะแสของรถยนต์กระบะคันดังกล่าว และเบาะแสของชายผู้ก่อเหตุ เพื่อติกตามตัวมารับผิดชอบ และดำเนินคดี ขณะที่ล่าสุด วันนี้ (26 มิ.ย.68) ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปหาผู้เสียหายรายนี้ ทราบชื่อคือ นายเจมส์ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ที่ทางเจ้าตัวยังมีอาการบาดเจ็บมีรอยฟกช้ำ และแผลถลอกตามร่างกายบริเวณหัวเข่า […]

ชาวบ้านสุดเอือม แก๊งขายอาหารนก เมินกฎหมาย คำเตือน ปักหลักใช้พื้นที่ประตูท่าแพ เรียกนกนับพันชุมนุม ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป เก็บค่าบริการ ขายอาหารโจ๋งครึ่ม ขอเจ้าหน้าที่จริงจัง ห่วงกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคสู่คน กลุ่มคนแอบลักลอบขายอาหารนกพิราบ ให้กับนักท่องเที่ยวบริเวณลานเอนกประสงค์ประตูท่าแพ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองเชียงใหม่ ที่มักมีคนเดินทางมาถ่ายรูปอยู่เป็นประจำ ยังคงไม่สนกฎข้อบังคับ และเมินคำสั่งของเจ้าหน้าที่ โดยยังคงปักหลัก แอบลักลอบขายอาหารนกพิราบอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ จะมีทางเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว นำกำลังเข้าเข้มงวดกวดขัน ปราบปรามอย่างจริงจัง รวมทั้งมีการจับกุมตัวลงโทษไปแล้ว แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน กลุ่มคนเหล่านี้ ก็ยังคงมาทำพฤติกรรมในลักษณะเดิมอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยพบว่ายังคงเป็นกลุ่มคนหน้าเดิมๆ ที่เคยถูกทางเจ้าหน้าที่จับกุมส่งดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง ขณะที่ล่าสุด ทางผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในละแวกว่า ยังคงได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากกลุ่มคนกลุ่มนี้ โดยยังพบว่ามีการลักลอบนำเอาอาหารนกพิราบ ซึ่งเป็นเมล็ดข้าวโพดบดใส่ถุงพลาสติก ซุกซ่อนไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ และแอบนำออกมาขายให้กับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ ที่เดินทางมาท่องเที่ยวและเดินผ่านที่บริเวณลานประตูท่าแพ โดยพบว่า กลุ่มคนกลุ่มนี้ได้อาศัยพื้นที่บริเวณโซนด้านซ้ายของประตูท่าแพ เป็นจุดที่เรียกให้นกพิราบมาชุมนุมนับพันตัว ด้วยการโปรยอาหารนก โดยไม่สนใจป้ายห้าม ที่ได้มีการติดตั้งแจ้งเตือนไว้ เมื่อนกมาชุมนุม นักท่องเที่ยวหลายรายที่เห็นดังนั้น ก็จะพากันมาถ่ายภาพ และเป็นช่วงสบโอกาสที่กลุ่มคนกลุ่มนี้ จะเดินเข้าไปเพื่อเสนอขายอาหารนกในราคาถุงละประมาณ 20 บาท แต่มีการเสนอขายให้นักท่องเที่ยวในราคา 3 ถุง 50 […]

ตำรวจบุกจับ 3 หนุ่มจีนเทาใช้วีซ่านักศึกษาเช่าบ้านหรูย่าน อ.สันทราย กบดานทำเว็บพนันออนไลน์ รับสารภาพทำมานานเกือบปี ด้าน ผบช.ภาค 5 สั่งจับตา คาดมีกลุ่มจีนเทาที่แฝงตัวลีกษณะนี้อีกมาก วันที่ 16 มิ.ย.68 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ PCT ภาค 5 , ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจท่องเที่ยว เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านจัดสรรชื่อดัง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ หลังพบเบาะแสว่าเป็นสถานที่ลักลอบทำเว็บการพนันออนไลน์ จากการเข้าตรวจค้นสามารถควบคุมตัวชายชาวจีน อายุ 29 และ 30 ปี รวม 3 คน พร้อมของกลางอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค 3 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง และ อุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เนต โดยพบข้อมูลภายในคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับเว็บไซต์การพนัน GO 1818 ซึ่งเป็นเว็บไซต์การพนันต่างประเทศเป็นภาษาจีน มีเนื้อหาชักชวนให้เล่นการพนัน เป็นเวปจีนที่หลอกคนจีนด้วยกันเอง จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าก่อนหน้านี้ทั้ง 3 […]

กวาดล้างกลุ่มค้าอาหารนก ไม่เข็ดหลาบ ยังฉวยโอกาสยึดลานท่าแพหากินกับนักท่องเที่ยว ล่อนกพิราบรวมฝูงให้ถ่ายภาพ ชาวบ้านเอือมระอา เสี่ยงแพร่เชื้อโรคสารพัด เทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่ ร่วมกับ ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ และ ตำรวจท่องเที่ยว ควบคุมตัวกลุ่มผู้ลักลอบขายอาหารนกพิราบบนข่วงประตูท่าแพ ดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับตาม พรบ.ความสะอาดฯ พร้อมกับทำประวัติและทำบันทึกข้อตกลงว่าจะไม่กลับมาทำพฤติกรรมเดิมอีก เจ้าหน้าที่เทศกิจ เทศบาลนครเชียงใหม่ ร่วมกับ ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ และ ตำรวจท่องเที่ยว เข้าควบคุมตัวกลุ่มผู้ลักลอบขายอาหารนกพิราบบนลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ จำนวน 11 คน พร้อมของกลางข้าวโพดบดทั้งที่บรรจุถุงแล้วและเตรียมนำบรรจุถุงขายให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อโปรยล่อให้นกพิราบเข้าใกล้แล้วถ่ายรูปกับนกพิราบ หลังพบว่ากลุ่มคนเหล่านี้ฝ่าฝืนประกาศห้ามจำหน่ายอาหารนกบริเวณลานท่าแพ โดยนกพิราบฝูงใหญ่นับพันตัวที่อาศัยอยู่บริเวณกำแพงเมืองข่วงประตูท่าแพ และ ความนิยมของนักท่องเที่ยวในการถ่ายภาพกับฝูงนก ทำให้บริเวณดังกล่าวกลายเป็นแหล่งฉกฉวยโอกาสของคนกลุ่มนี้ ใช้หาผลประโยชน์ รวมทั้งก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่นักท่องเที่ยวในลักษณะขายอาหารนกพร้อมถ่ายรูปให้โดยมีการขอเงินเป็นค่าตอบแทน หากนักท่องเที่ยวบางรายไม่เต็มใจที่จะให้เงิน ก็จะถูกกลุ่มคนเหล่านี้แสดงอาการไม่พอใจ พูดจาไม่ดีหรือขู่กรรโชก ซึ่งถือเป็นการสร้างความสกปรกจากเศษซากอาหารและมูลนกพิราบแล้วยังทำให้นกพิราบเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว เสี่ยงที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่างๆ ที่นกเป็นพาหะนำโรคมา อีกทั้งยังสร้างความเสื่อมเสียภาพลักษณ์ให้กับเมืองท่องเที่ยวอีกด้วย แม้ที่ผ่านมาหลายคนเป็นหน้าเดิม ๆ ที่เคยถูกจับดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับมาแล้วหลายครั้ง แต่ยังพบว่ากลับมาทำพฤติกรรมแบบเดิมอีก บางคนยอมเสียค่าปรับหลักร้อยและกับรายได้หลักพันบาทต่อวัน การจับกุมครั้งนี้จึงต้องดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง เปรียบเทียบปรับตามอัตราโทษสูงสุดคนละ 2,000 บาท พร้อมกับทำประวัติและทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันว่าจะไม่กลับมาทำพฤติกรรมแบบเดิมอีก หลังจากนี้หากยังกลับมาขายอีกเจ้าหน้าที่ก็จะจับกุมและสั่งปรับในอัตราโทษสูงสุดทุกครั้ง ขณะที่ […]

ผู้เสียหายกว่า 50 คน แจ้งความตำรวจไซเบอร์ แก๊งตุ๋น อ้างเป็นบาทหลวงหลอกพาไปทำงานเกาหลีใต้ สุดท้ายฝันสลาย เสียเงินคนละ 6.3 หมื่น เผยผู้เสียหายนับร้อยหลงเชื่อเพราะนับถือ ไม่คิดไม่ฝันจะมาหลอกกันได้ลงคอ กลุ่มผู้เสียหายจากจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่รวมตัวกันกว่า 50 คน เดินทางนำหลักฐานเข้าแจ้งความที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 หรือ บก.สอท.4 จ.เชียงใหม่ หลังถูกแก๊งตุ๋น อ้างตัวว่าเป็นบาทหลวงที่มีพฤติกรรมเป็นนายหน้าเถื่อนหลอกลวงทางออนไลน์ อ้างพาไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้อย่างถูกกฏหมาย สุดท้ายฝันสลายจ่ายเงินไปคนละหลายหมื่นบาทแต่ไม่มีใครได้เดินทางแม้แต่คนเดียว ผู้เสียหายเดือดร้อนหนักไม่ได้บินแถมยังต้องแบกหนี้ที่กู้มาจ่ายให้ นายวุฒิชัย ตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2566 บุคคลดังกล่าวเป็นคนไทยอายุประมาณ 35 ปี โพสต์เชิญชวนในเฟซบุ๊กอ้างพาคนไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้อย่างถูกกฎหมาย โดยอ้างว่าหลายปีก่อนหน้าเคยไปเรียนศาสนาและเรียนภาษาที่เกาหลีใต้ ก่อนจะกลับมาทำงานที่โบสถ์คริสต์ในจังหวัดเชียงราย โดยบอกว่ารู้จักกับคนในกระทรวงแรงงานของไทยและผู้บริหารในนิคมอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ สามารถช่วยให้เข้าทำงานได้อย่างถูกกฎหมายด้วยวีซ่า E-9 ด้วยความที่บุคคลดังกล่าวอ้างเป็นบาทหลวงทำให้ผู้เสียหายจำนวนมากที่เกือบทั้งหมดเป็นศิษยานุศิษย์หลงเชื่อ พากันติดต่อสอบถามหวังเดินทางไปทำงานหาเงิน จากนั้นบาทหลวงจะไปพบและพูดคุยด้วยตัวเอง ก่อนจะดึงเข้าไลน์กลุ่มที่จะมีแอดมินเข้ามาให้รายละเอียด โดยแอดมินระบุค่าดำเนินการทั้งหมด เป็นเงิน 63,000 แบ่งเป็นค่าแปลเอกสารและเดินเรื่องทำวีซ่า 23,000 บาท ส่วนอีก 40,000 บาท เป็นเงินประกันการทำงาน จะได้คืนเมื่อทำงานครบ 1 […]

“เปิดใจครอบครัวสายตรง ปู่แสะ-ย่าแสะ” กรณีดราม่าร่างทรง พิธีเลี้ยงดงตำนานกว่า 200 ปี แจงทุกประเด็น ยันทำถูกต้อง สืบสานความเชื่อดั้งเดิมให้คงอยู่ ไม่มีเจตนาแสวงหาผลประโยชน์ ทุกอย่างองค์ปู่แสะเป็นคนเลือก จากกรณีกระแสดราม่าที่เกิดขึ้นในพิธีเลี้ยงดงปู่แสะ-ย่าแสะ ประจำปี 2568 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์และในชุมชน หลังปรากฏภาพร่างทรงหญิงรายหนึ่ง แสดงพฤติกรรมที่หลายคนมองว่าไม่เหมาะสม เช่น ยิ้มให้กล้อง กดโทรศัพท์มือถือ และพูดถึงแอพพลิเคชันซื้อของออนไลน์ รวมไปถึงการที่องค์จะลงก่อนเริ่มทำพิธี ล่าสุดวันนี้ (11 มิ.ย.68) ครอบครัวสายตรงของปู่แสะ-ย่าแสะ ได้เปิดใจต่อสื่อมวลชน ชี้แจงว่าหญิงคนดังกล่าวชื่อ “หงส์” ไม่ได้เป็นม้าทรงมาก่อน แต่เกิดอาการองค์ลงเมื่อไปไหว้ศาลปู่แสะหลังถูกรางวัลจากเลขเด็ดที่เชื่อว่ามาจากเลขปู่แสะ ทำให้แม่และอาจารย์ที่ดูแลซึ่งเป็นสายของร่างทรงเจ้าแม่กวนอิม ต้องพาเธอไปตามหาครอบครัวของปู่แสะ ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไปที่อำเภอฝาง และหลายที่กระทั่งมาพบกันเพียง 3 วันก่อนงานจริง และองค์ปู่แสะได้เลือกหงส์เป็นร่างทรงด้วยตนเองตามความเชื่อ เพราะถ้าปู่แสะเลือกใครแล้วไม่ให้ลง ก็อาจมีอันเป็นไป เหมือนในอดีต ในส่วนของเครื่องเซ่น และพิธีโบราณปีนี้ครอบครัวทำตามแบบโบราณที่เคยสืบทอดมา โดยระบุว่าสิ่งที่เทศบาลเคยจัดในอดีต มีการเสริมพิธีเข้าไปหลายส่วน แต่บางส่วนก็หายไป […]

สูญเงินกว่า 20 ล้านบาท! แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวหลอกเล่นแชร์ทิพย์ เหยื่อนับสิบแจ้งความตำรวจไซเบอร์ หนักสุดแค่รายเดียวโดนไป 5 ล้าน เผยเชื่อใจเพราะเห็นเป็นคนกันเอง แฉกลโกงหลอกขายต่อทำกำไรงามถึงสองเท่า กลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน นำหลักฐานเป็นสลิปโอนเงินและบันทึกการสนทนากลุ่มไลน์เข้าแจ้งความที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 จ.เชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีกับ นางสาวน้ำ (นามสมมุติ) ท้าวแชร์สาว อายุ 34 ปี ที่เปิดบ้านแชร์ออมเงินทิพย์ หลอกขายแชร์ก่อนเชิดเงินหนีไป เบื้องต้นมีผู้เสียหายกว่า 60 คน วงเงินความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า นางสาวน้ำเปิดร้านอาหารตามสั่งใน ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หลายปีทีผ่านมาได้ตั้งตัวเป็นท้าวแชร์เปิดวงแชร์ชักชวนเพื่อนบ้านและคนรู้จักมาร่วมออมเงิน โดยให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยเหมือนกับวงแชร์ปกติทั่วไป ที่ผ่านมามีลูกแชร์ร่วมเล่นกว่า 10 วง วงละไม่ต่ำกว่า 30 คน สมาชิกแต่ละคนเปียแชร์ได้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยตามปกติไม่มีบิดพลิ้ว กระทั่งช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา นางสาวน้ำได้เปิดวงแชร์เพิ่มอีกเกือบ 50 วง แต่ละวงจะตั้งกลุ่มไลน์พร้อมชื่อวงแชร์ ชักชวนคนเข้าไปลงทุนตามปกติ แต่ละกลุ่มมีสมาชิกเกือบ 50 คน […]