หนานแดงรวมกลุ่มเกษตรกรแจงกองทุนฟื้นฟูรับซื้อหนี้

วันที่ 1 สิงหาคม 2565 ที่บ้านสันโป่ง หมู่ 3 ต.ดอนเปา อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ นายภูวสิษฐ์ แก้วมา หรือหนานแดง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เขต อ.แม่วาง เป็นประธานการประชุมสมาชิกกองทุนฟื้นฟูเกษตรกร จ.เชียงใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สิน และส่งเสริมอาชีพเกษตรกร มีนายสมชาย  ศิริกุลพันธ์ ประธานกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์และเกษตรกร จ.เชียงใหม่ เป็นวิทยากรบรรยาย มีเกษตรกรจาก อ.แม่วาง อ.สันป่าตอง อ.จอมทอง อ.ดอยหล่อ และ อ.เมือง เข้าร่วมกว่า 400 คน โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง

นายภูวสิษฐ์ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าว เพื่อสำรวจสมาชิกกองทุน และยืนยันตัวตน พร้อมลงทะเบียนเป็นสมาชิกกลุ่ม เพื่อขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนดังกล่าว โดยกองทุนรับซื้อหนี้เกษตรกรจากสถาบันการเงิน และสหกรณ์ เพื่อลดภาระดอกเบี้ยและให้ทุนหมุนเสียน เพื่อทำการเกษตรตามนโยบายรัฐบาล โดยรับซื้อหนี้จากเกษตรกรไม่เกินรายละ 5 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 1 ต่อปีเท่านั้น ซึ่งปีแรกปลอดเงินต้นและดอกเบี้ย ปีที่ 2 ชำระปีละ 4,000 บาท  และให้ชำระหนี้คืนภายใน 25 ปี ได้ เพื่อแบ่งเบาภาระลดความเดือดร้อนเกษตรกรและไม่ให้สถาบันการเงินยึดโฉนดที่ดินที่เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เนื่องจากสถาบันการเงิน คิดดอกเบี้ยร้อยละ 5-6 ต่อปี ทำให้เกษตรกรชำระหนี้ไม่ไหว

นอกจากนี้มีโครงการกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพื่อเกษตรกรของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่ส่งเสริมอาชีพเกษตรกร อาทิ เลี้ยงโคขุน ปลา ไก่พันธุ์พื้นเมือง เพาะเห็ด ทำปุ๋ยชีวภาพ ปลูกผักไฮโดร เพื่อเป็นทางเลือกเกษตรกร และเพิ่มรายได้ครัวเรือนโดยผ่านกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์และเกษตรกร จ.เชียงใหม่ เพื่อบริหารจัดการและบูรณการส่งเสริมอาชีพร่วมกัน ซึ่งเกษตรกรจะได้รับประโยชน์จากโครง การดังกล่าวอย่างมาก

นายสมชาย กล่าวว่า กองทุนฟื้นฟูเกษตรกร จ.เชียงใหม่ มีสมาชิกกว่า 10,000 ราย ในปี 65 มีสมาชิกขอความช่วยเหลือจากกองทุน รวมกว่า 2,000 รายแล้ว วงเงินกว่า 100 ล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าว ได้รับซื้อหนี้เกษตรกร ทั่วประเทศกว่า 1,500 ล้านบาทแล้ว ส่วนโครงการส่งเสริมอาชีพของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับงบประมาณ 595 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรดังกล่าว อาทิ โครงการเลี้ยงโคขุน 4 ตัว โดยคัดเลือกเกษตรกรจำนวน 286 ราย เข้าร่วมโครงการ โดยกองทุนจัดหาแม่พันธุ์โค อายุ 12-14 เดือนให้เกษตรกรนำไปเลี้ยง เพื่อเพาะพันธุ์ลูกโค รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท/ราย มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี  ซึ่งเกษตรกรที่สมัครเป็นสมาชิก และเข้าโครงการดังกล่าว ไม่ต้องค่าใช้จ่ายอย่างใด เพื่อป้องกันการแอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์จากเกษตรกรด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น