กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง กอปรกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (204/2565) ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2565 เวลา 05.00 น. แจ้งว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนจะเคลื่อนเข้าสู่แนวร่องมรสุม และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีพื้นที่ฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง ระหว่างวันที่ 20 – 22 สิงหาคม
ภาคเหนือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อ.เมืองฯ ปาย ปางมะผ้า แม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อ.ฝาง แม่อาย เชียงดาว เวียงแหง สะเมิง) เชียงราย (อ.เมืองฯ แม่จัน แม่สาย เวียงป่าเป้า แม่ฟ้าหลวง พญาเม็งราย ขุนตาล เวียงแก่น เทิง เชียงของ เชียงแสน ดอยหลวง) ลำพูน (อ.ลี้ ทุ่งหัวช้าง) ลำปาง (อ.เมืองฯ เถิน เสริมงาม วังเหนือ แจ้ห่ม เมืองปาน แม่พริก สบปราบ เกาะคา งาว ห้างฉัตร) พะเยา (อ.เมืองฯ แมใจ เชียงคำ ปง จุน ภูซาง ดอกคำใต้) แพร่ (อ.เมืองฯ วังชิ้น ร้องกวาง ลอง สอง เด่นชัย) น่าน (อ.เมืองฯ เชียงกลาง สองแคว ปั่ว เฉลิมพระเกียรติ บ่อเกลือ ทุ่งช้าง ท่าวังผา ภูเพียง เวียงสา) ตาก (อ.ท่าสองยาง แม่ระมาด แม่สอด) สุโขทัย (อ.เมืองฯ ทุ่งเสลี่ยม บ้านด่านลานหอย ศรีสัชนาลัย คีรีมาศ) อุตรดิตถ์ (อ.ท่าปลา น้ำปาด) พิษณุโลก (อ.วังทอง นครไทย เนินมะปราง ชาติตระการ วัดโบสถ์) พิจิตร (อ.ทับคล้อ ดงเจริญ เพชรบูรณ์ (อ.เมืองฯ วังโป่ง ชนแดน หล่มสัก หล่มเก่า เขาค้อ หนองไผ่) และนครสวรรค์ (อ.ไพศาลี ท่าตะโก)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดเลย (อ.เมืองฯ ด่านซ้าย ท่าสี่ นาแห้ว) หนองคาย (อ.สังคม โพธิ์ตาก) บึงกาฬ (อ.เมืองฯ มุ่งคล้า) หนองบัวลำ (อ.สุวรรณคูหา อุดรธานี (อ.กุดจับ นายูง น้ำโสม) สกลนคร (อ.เมืองฯ ภูพาน สว่างแดนดิน) นครพนม (อ.เมืองฯ มุกดาหาร (อ.เมืองฯ ดงหลวง หว้านใหญ่ หนองสูง) ชัยภูมิ (อ.เมืองฯ หนองบัวระเหว แก้งคล้อ บ้านแท่น ภูเขียว คอนสวรรค์) ขอนแก่น (อ.เมืองฯ ชุมแพ ภูเวียง ภูผาม่าน มัญจคีรี ชนบท บ้านแฮด) มหาสารคาม (อ.โกสุมพิสัย) กาฬสินธุ์ (อ.เมืองฯ ยางตลาด) ร้อยเอ็ด (อ.เสลภูมิ) ยโสธร (อ.มหาชนะชัย คำเขื่อนแก้ว เลิงนกทา) อำนาจเจริญ (อ.เมืองฯ ชานุมาน) นครราชสีมา (อ.ด่านขุนทด โนนไทย วังน้ำเขียว ปักธงชัย พิมาย จักราช ลำทะเมนชัย ชุมพวง ปากช่อง สีคิ้ว) บุรีรัมย์ (อ.เฉลิมพระเกียรติ ประโคนชัย โนนดินแดง นางรอง สตึก คูเมือง) สุรินทร์ (อ.ปราสาท พนมดงรัก) ศรีสะเกษ (อ.ขุนหาญ กันทรลักษ์) และอุบลราชธานี (อ.เมืองฯ บุณฑริก น้ำยืน นาจะหลวย น้ำขุ่น วารินชำราบ เดชอุดม นาเยีย)
ภาคกลาง จังหวัดกาญจนบุรี (อ.ทองผาภูมิ สังขละบุรี ราชบุรี (อ.สวนผึ้ง บ้านคา) สมุทปราการ (อ.เมืองฯ บางพลี บางเสาธง) นครนายก (อ.เมืองฯ ปากพลี ปราจีนบุรี (อ.เมืองฯ ประจันตคาม กบินทร์บุรี นาดี) สระแก้ว (อ.เมืองฯ วังน้ำเย็น ตาพระยา) ระยอง (อ.เมืองฯ เขาชะเมา แกลง บ้านค่าย) จันทบุรี (อ.เมืองฯ นายายอาม เขาคิชฌกูฏ สอยดาว โป่งน้ำร้อน มะขาม ขลุง) และตราด (อ.บ่อไร่ เขาสมิง คลองใหญ่ เกาะช้าง เกาะกูด แหลมงอบ)
จึงขอให้จังหวัดติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ทราบล่วงหน้าโดยให้ติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด รวมถึงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก หรือบริเวณฝนสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบ ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัย ดังกล่าว ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ หากมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้ถือปฏิบัติตามข้อสั่งการและมาตรการตามหนังสือกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ มท (บกปภ) 1624/ว 007
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ รวมทั้งลดผลกระทบจาก สถานการณ์ดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ดำเนินการดังนี้
1. ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เตรียมความพร้อม
เครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ กำลังพล ให้พร้อมสนับสนุนจังหวัดตลอด ๒๔ ชั่วโมง
2. กรณีประเมินสถานการณ์แล้ว คาดว่าจะเกิดสถานการณ์ หรือสถานการณ์ขยายวงกว้าง
ให้มอบหมายบุคลากร ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) พร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการไปปฏิบัติ
หน้าที่ในศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด ขึ้นการบังคับบัญชาต่อผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้อำนวยการจังหวัด
โดยประสานการปฏิบัติกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด
3. กรณีทรัพยากรเพื่อสนับสนุนในจังหวัดพื้นที่รับผิดชอบไม่เพียงพอ ให้ประสานขอรับการสนับสนุน
จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตใกล้เคียง
4. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โทรศัพท์หมายเลข 0-2399-4114
หากข้อมูลคาดการณ์สถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบต่อไป





ร่วมแสดงความคิดเห็น