สภาพัฒน์แนะองค์กรปรับตัว หลังแรงงานหมดไฟ – ลาออกมากขึ้น

วันที่ 26 ส.ค. นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พร้อมผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ได้นำเสนอภาวะสังคมไทยไตรมาสสอง ปี 2565

โดยพบความเคลื่อนไหวสำคัญ ได้แก่ สถานการณ์ด้านแรงงานไตรมาสสอง ปี 2565 สะท้อนการฟื้นตัวจาก COVID-19 อย่างชัดเจน โดยการจ้างงานและชั่วโมงการทำงานปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งอัตราการว่างงานลดลงต่อเนื่องเช่นกัน ด้านหนี้สินครัวเรือนขยายตัวชะลอลง แต่ความสามารถในการชำระหนี้ยังทรงตัว สำหรับการเจ็บป่วยด้วยโรคเฝ้ายังคงต้องติดตาม โดยเฉพาะโรคที่มากับฤดูฝน เช่นเดียวกันกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่การก่ออาชญากรรมและอุบัติเหตุจราจรทางบกลดลง แต่การร้องเรียนเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคผ่าน สคบ. และสำนักงาน กสทช. เพิ่มขึ้น

โดยสถานการณ์แรงงานในขณะนี้ มีประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามได้แก่ ผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อต่อแรงงาน , การขาดแคลนแรงงาน และ ปัญหาการหมดไฟในการทำงาน

ปัจจุบันแรงงานทั่วโลกจำนวนมากเริ่มมีภาวะหมดไฟในการทำงาน และลาออกจากงานมากขึ้น ซึ่งการสำรวจของวิทยาลัยการจัดการมหาวิทยาลัยมหิดลที่สำรวจแรงงานในกรุงเทพมหานคร ปี 2562 พบว่า แรงงาน ในทุกกลุ่มอาชีพมีภาวะหมดไฟในระดับสูง กล่าวคือ พนักงานรัฐวิสาหกิจมีภาวะหมดไฟร้อยละ 77 รองลงมาเป็นบริษัทเอกชน ร้อยละ 73 ข้าราชการ ร้อยละ 58 และธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 48 ดังนั้น นายจ้าง/องค์กรต่าง ๆ ต้องการกระตุ้นให้มีโครงการที่สร้างสรรค์และออกแบบให้คนในองค์กรมีสุขภาพจิตที่เข้มแข็ง มีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน รวมทั้งปรับสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการของแรงงาน

ที่มา : สภาพัฒน์

ร่วมแสดงความคิดเห็น